xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ไซเบอร์พบเส้นเงินเว็นพนัน-แก๊งคอลฯ โยงบริษัทกัมพูชา ยังไม่ฟันธงเอี่ยวหลาน “ฮุนเซน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผบช.สอท.เผยพบเส้นเงินเว็บพนัน-แก๊งคอลเซ็นเตอร์เชื่อมโยงบริษัท Huione ในกัมพูชา ส่วนจะเกี่ยวข้องหลาน “ฮุเซน” หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

จากกรณีที่เพจ CSI LA โพสต์ข้อมูลระบุว่า ขณะนี้ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัท Huione Group ซึ่งเพจ CSI LA ลงข้อมูลเสริมว่า เป็นบริษัทของ Hun to หลานชายของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมทั้งยังเป็นบิดาของ พล.อ.ฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันและเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองของประเทศ เนื่องจากอ้างว่า บริษัทดังกล่าวมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายฟอกเงินระดับโลกมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งจากแก๊งหลอกลวงออนไลน์หรือการกระทำอาชญากรรมทางออนไลน์อื่นๆ

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.เปิดเผยว่า ตำรวจไซเบอร์พบว่า บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายในประเทศกัมพูชา จดทะเบียนเป็นบริษัทรับแลกเงินสกุลต่างๆ รวมถึงรับแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล

นั่นจึงทำให้เป็นไปได้ว่า บรรดาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ได้จากเงินในบัญชีของผู้เสียหายชาวไทยไปยังบัญชีม้าแถวต่างๆ แล้วจะแปลงเงินเหล่านี้เป็นเงินสกุลดิจิทัล ก่อนนำไปแปลงเป็นเงินสดและทรัพย์สินที่บริษัทแห่งนี้ ซึ่งทางตำรวจให้ความเป็นไปได้ 2 อย่าง คือ บริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชาและตั้งอยู่ในพื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์ตามแนวบริเวณชายแดน จึงอาจใช้บริษัทแลกสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ในการแลกเงินสกุลดิจิทัลออกมาเป็นเงินสดหรือเงินเข้าสู่บัญชีอื่นๆ

โดยที่ผ่านมา คดีเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ ก็มีเส้นทางการเงินไปถึงบริษัทแห่งนี้เป็นส่วนใหญ่ แต่หากถามว่าผิดปกติหรือไม่ เรื่องนี้ไม่สามารถฟันธงลงไปได้ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่เปิดโดยถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำบริษัทดังกล่าว จะมีผลต่อการสืบสวนสอบสวนหรือการเฝ้าจับตาของตำรวจไซเบอร์หรือไม่ ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนไม่เป็นปัญหาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะต้องจับตามองตามบัญชีดำที่หน่วยงานต่างประเทศทำข้อมูลไว้

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากการพบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้ายไปยังบริษัทดังกล่าว ก่อนหน้านี้ได้เคยประสานขอความร่วมมือข้อมูลทรัพย์สินและยอดเงินจากบริษัทดังกล่าวบ้างหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาทางตำรวจไซเบอร์ได้ประสานขอข้อมูลไปยังหลายบริษัทที่เป็นผู้ให้บริการแลกเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทในประเทศไทยจะให้ความร่วมมือ 100% แต่หากเป็นบริษัทในต่างประเทศ ก็จะมีให้ความร่วมมือตั้งแต่ 10-50% ไม่เหมือนกัน

สำหรับบริษัทนี้มีให้ความร่วมมือส่งข้อมูลกลับมาให้เป็นบางกรณี บางคดีก็ไม่ได้ส่งข้อมูลกลับมาให้ ซึ่งก็เหมือนกับบริษัทผู้ให้บริการนอกประเทศไทยหลายรายที่อาจจะให้ความร่วมมือกับทางตำรวจไทยต่ำ ส่วนที่มองว่า บริษัทแห่งนี้จะมีความผิดปกติหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดลงไปได้

ส่วนบริษัทดังกล่าวจะเป็นของหลานชายสมเด็จฮุนเซนจริงตามที่เพจกล่าวอ้างหรือไม่ เรื่องนี้ตนเองไม่สามารถตอบได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทดังกล่าว

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังได้กล่าวเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าในช่วงสถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาว่า ขอให้ระมัดระวังการติดตามข้อมูลข่าวสารและแชร์ข่าว เนื่องจากขณะนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีสร้างข่าว Fake News อย่างแนบเนียนมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้โปรแกรม AI มาตัดต่อภาพ ดังนั้นหากข่าวไหนไม่ชัวร์ โปรดอย่าแชร์ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากสำนักข่าวที่เชื่อถือได้

ขณะเดียวกัน ยังได้เตือนไปยังกลุ่มคนผู้ไม่หวังดีที่ต้องการจะสร้าง Fake News ว่า การแสดงออกความคิดเห็นในโลกออนไลน์เป็นเสรีภาพที่สามารถทำได้ แต่ขอให้แยกแยะว่า การสร้าง Fake News เพื่อปลุกปั่นกระแส ไม่ใช่เสรีภาพ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ หากทางตำรวจไซเบอร์พบเจอ ก็จะดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น