xs
xsm
sm
md
lg

ไทยแพ้เขมรตั้งแต่ยังไม่ชก สื่อผิดหวังกระทรวงการต่างประเทศไม่เปิดเผยอะไรเลย ปล่อยกัมพูชาชิงแถลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สื่อมวลชนไทยแสดงความผิดหวังต่อท่าทีกระทรวงการต่างประเทศ "สุทธิชัย หยุ่น" ชี้ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ราบรื่นไม่จริง "เทพชัย หย่อง" ชี้ตัวแทนไทยล้มเหลวในการสื่อสาร ปล่อยให้ฝ่ายเขมรสื่อสารอยู่ฝ่ายเดียว "แยม ฐปณีย์" ระบุ คณะที่มาจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ จะให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงที่กรุงเทพฯ แค่เรื่องการให้ข่าวไทยก็พ่ายแพ้กัมพูชาไปแล้ว

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. จากกรณีที่เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศโพสต์ข้อความระบุว่า "ตามที่เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้างในขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงและยืนยันว่าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC) ครั้งที่ 6 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อบ่ายวันนี้ (15 มิถุนายน 2568) มิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุดเข้าสู่การพิจารณาของ International Court of Justice (ICJ) โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด"

เฟซบุ๊ก Suthichai Yoon ของนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความระบุว่า "ตกลงที่บอกว่าเป็นการประชุม JBC ที่ “ราบรื่น เป็นไปทางบวก” ก็ไม่จริงเลย!"

ด้านเฟซบุ๊ก Thepchai Yong ของนายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความระบุว่า "ตัวแทนไทยที่ประชุม JBC ล้มเหลวในการสื่อสาร ทั้งๆ ที่มีนักข่าวไทยอย่างน้อยสามสำนักอยู่ที่นั่น แต่ไม่มีความพยายามให้ข้อมูลหรือสื่อสาร ขนาดนักข่าวไทยวิ่งตามก็ยังไม่ยอมตอบคำถาม ให้แต่รอยยิ้ม ปล่อยให้ฝ่ายเขมรสื่อสารอยู่ฝ่ายเดียว จนเกิดความสับสนที่ไทยต้องออกมาตามชี้แจงภายหลัง"

ส่วนเฟซบุ๊ก Thapanee Eadsrichaiของ น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอร์ตเตอร์ โพสต์ข้อความระบุว่า "ผลการประชุม JBC ไทยพ่ายแพ้ทางข่าวสารฝ่ายกัมพูชาไปเรียบร้อยแล้ว!!

ในฐานะนักข่าวไทยที่ไปทำข่าวการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ซึ่งมีนักข่าวไทยไปกันเพียง 4 สำนัก คือ แยม-ฐปณีย์ ที่ทำทั้งข่าว 3 มิติ และ The Reporters, น้องเก้า พงศธัช สุขพงษ์ ThaiPBS World, สันติวิธี พรหมบุตร ไทยรัฐทีวี และนักข่าวกัมพูชาจำนวนมาก

ก่อนเดินทางต้องขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ให้นักข่าวไทยที่จะไปทำข่าวลงทะเบียนเพื่อทำบัตรไปทำข่าวการประชุมได้ ส่วนรายละเอียดสถานที่จัดการประชุม เวลา และอะไรต่างๆ ก่อนประชุมทางกัมพูชาก็ปิดลับ เรารู้กันว่าโรงแรมอะไร และเวลาไหน ที่เหลือต้องเช็กกันเอง

โชคดีที่เราพอมีเพื่อนนักข่าวกัมพูชา และแหล่งข่าวเก่าๆ ที่เคยทำข่าวประเด็นพิพาทต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่ง 16-17 ปีผ่านไปยังมีคนที่พอให้เช็กข่าวสัมภาษณ์ได้บ้าง อย่างเช่น นายไพ สีพาน อดีตโฆษกรัฐบาลสมัยสมเด็จ ฮุนเซน และปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต

วันที่ 13 มิ.ย.ที่ไปถึง แยมให้เพื่อนช่วยนัดไพ สีพาน และ ศ.รอส จันทะบอต นักประวัติศาสตร์ มาสัมภาษณ์ เพราะอยากรู้ท่าทีของกัมพูชาที่จะนำ 4 ข้อพิพาทไปศาลโลก และเป็นข้อมูลก่อนการประชุม JBC

ส่วนฝ่ายไทยก็แจ้งมาว่าคณะที่มาจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ จะให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงที่กรุงเทพฯ ซึ่งนักข่าวไทยก็ช่วยกันต่อรองมาบอกอะไรเราบ้าง เราจะได้รายงานข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เพราะเรามาทำข่าวถึงที่นี่ ถ้าฝ่ายกัมพูชาให้สัมภาษณ์แถลงอะไร เราก็ต้องรายงานข่าวตามนั้นนะ

สุดท้ายทาง กต.ไทยก็ย้ำว่าจะไม่มีการให้สัมภาษณ์ของคณะ JBC ไทย แต่ความเป็นนักข่าวเราก็ต้องทำหน้าที่ คืนวันที่ 13 มิ.ย.แยมก็รอเจอท่านทูตประศาสน์ ประธาน JBC ไทย ที่โรงแรมที่พัก ซึ่งกว่าจะมาถึงก็ 21.00 น. ซึ่งเชื่อว่าการรู้จักกันมาก่อน ตั้งแต่เป็นท่านทูตพนมเปญในช่วงปี 51-54 แต่ท่านทูตก็ไม่ตอบเรื่องการประชุมเพราะมีนโยบายมา ซึ่งเข้าใจได้ เราแค่อยากทักทายตามประสาแหล่งข่าว ซึ่งตลอด 2 วันในการประชุมเราก็ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ 555

มาถึงวันประชุมจริง 14 มิ.ย.นักข่าวไทยก็ไปรอประชุมคณะใหญ่ พร้อมนักข่าวกัมพูชา นัด 10.00 น. กว่าคณะจะมาห้องใหญ่ก็ 11.40 น.เพราะมีประชุมคณะเล็ก แล้วก็พักเที่ยง 2 ชม.แล้วมาประชุมอีกที 14.40 น. ซึ่งไม่นานพอ 15.30 น.ฝ่ายไทยนำโดยท่านทูตประศาสน์ ออกจากห้องประชุม โดยเราไปถามอะไรก็ไม่มีใครตอบ นักข่าวคิดว่าการประชุมจบแล้ว

แต่ในห้องประชุมเราเห็น นายฬำ เจีย ยังถกเครียดกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ซึ่งไม่นาน มีเจ้าหน้าที่กัมพูชามาขอคุยกับนักข่าวไทยว่า การประชุมยังไม่เสร็จ แค่พักการประชุม และไทยไปแถลงข่าวที่ไม่ตรงกัน และต่อมา นายฬำ เจีย ก็มาให้สัมภาษณ์ที่ไทยแถลงนั้นเป็นเพียงฝ่ายเดียว!!

นักข่าวไทยก็พยายามประสานบอกว่า ฝ่ายกัมพูชาอาจเอาเรื่องนี้มาชิงความได้เปรียบทางการสื่อสาร ขอให้ข้อมูลกับเราบ้าง

และก็จริง พอการประชุมวันนี้ ตั้งแต่เช้า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาชิงแถลงส่งหนังสือไปฟ้องศาลโลกก่อนการประชุม JBC วันที่ 2 จะเริ่มขึ้น และยังไม่ตกลงกันเรื่องบันทึกการประชุม Agreement Minutes ซึ่งเรื่อง 4 ข้อพิพาท ก็กลายเป็นประเด็นที่โต้แย้งกัน จนใช้เวลาตกลงกันเกือบ 6 ชั่วโมง และกว่าจะมาแถลงลงนามกันก็บ่ายสองแล้ว!!

การลงนาม จับมือ ถ่ายภาพกันชื่นมื่นจริง แต่ไม่มีแถลงการณ์ร่วม ไม่มีการเปิดเผยอะไร ก่อนที่สองฝ่ายแยกย้าย นักข่าวไปรุมสัมภาษณ์ นายฬำ เจีย ตอบสั้นๆ ว่าบรรยากาศดี ให้รอ press แถลงข่าว ส่วนท่านทูตประศาสน์ไม่ตอบอะไร

ซึ่งจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ในเวลา 14.45 น.กัมพูชาก็ออก press ข่าวผลการประชุม อย่างที่ปรากฏว่าแจ้งฝ่ายไทยว่าจะส่ง 4 ข้อพิพาทไปศาลโลก แต่ฝ่ายไทยไม่ยอมรับ และไม่นำ 4 เรื่องนี้หารือใน JBC อีกต่อไป รวมถึงยึดตามแผนที่ 1:200,000 ไม่ยึดแผนที่ที่ไทยทำขึ้นเอง

https://www.facebook.com/share/p/16kp61dy4k/?mibextid=wwXIfr

ส่วนของไทย กระทรวงการต่างประเทศออกข่าวแจงสั้นๆ ว่า บรรยากาศประชุมดี สองฝ่ายจะใช้กลไก JBC คุยเรื่องปักปันเขตแดนต่อไป ฯ และต้องมาออกเอกสารชี้แจงภายหลัง โดยล่าสุดออกแถลงการณ์ชี้แจงเมื่อ 22.30 น.ที่ผ่านมา แสดงความผิดหวังที่กัมพูชาขาดความจริงใจที่จะนำ 4 ข้อพิพาทหารือตามกลไกทวิภาคี

https://www.facebook.com/share/p/1BZ7Bc2MtH/?mibextid=wwXIfr

แค่เรื่องการให้ข่าวไทยก็พ่ายแพ้กัมพูชาไปแล้วจากการประชุม JBC ซึ่งที่สะท้อนมานี้ หวังแค่ว่าฝ่ายไทยจะปรับปรุง เพราะปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา กำลังจะเดินทางไปถึงศาลโลกและ UN ในขณะที่พื้นที่ชายแดนก็เปราะบาง กำลังลุกลามเป็นสงครามเศรษฐกิจ

นักข่าวไทยก็รักชาติ อยากรายงานข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ"
กำลังโหลดความคิดเห็น