xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทย ฉะ อนุทิน รอนายกฯปรับ ครม. คนไทยขอเปลี่ยนกลาโหม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ภูมิใจไทยขู่ถอนตัวจากรัฐบาล หากเสียเก้าอี้มหาดไทย! เพื่อไทยตบหัวลูบหลัง ชี้เป็นเรื่องต่อรองปกติ ผลสำรวจชี้ ปชช.ต้องการปรับครม. กลาโหมนำโด่ง คลังตามมาติดๆ

สถานการณ์ความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลใกล้เข้าสู่จุดแตกหักมากขึ้นไปทุกที ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันชัดเจนว่าพร้อมถอนตัวออกจากรัฐบาลไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หากต้องหลุดจากตำแหน่งเจ้ากระทรวงมหาดไทย

จากท่าทีที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าบรรดาลูกหาบของพรรคเพื่อไทยต่างออกมาแสดงอาการตอบโต้ในทำนองตบหัวลูบหลัง โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานสส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นธรรมดาในขณะนี้ที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งทุกคนต้องพูดเช่นนั้นเช่นนี้ แต่สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ต้องมีการตกลงกันได้ ไม่มีใครอยากกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งการที่เขาจะพูดก็เป็นสิทธิ์ เขาอยากทำอะไรก็เป็นเรื่องต่อรองปกติ

"คงไม่ถึงขั้นนั้นที่จะออกไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี สุดท้ายก็ต้องมีการเจรจากันอยู่แล้ว การเมืองคือต้องยอมรับข้อเท็จจริง โดยเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่ต้องเจรจากัน เราเข้าใจและไม่มีอะไรเป็นข้อกังวลในเรื่องนี้" ประธานวิปรัฐบาล ระบุ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ว่า หากสังเกตจะพบว่านายกฯไม่ติดยึดเรื่องปรับ หรือไม่ปรับครม.แต่สถานการณ์โลก สถานการณ์ประเทศ ณ เวลานี้ การแข่งขันสูง ทุกคนจึงต้องตั้งตนบนความพร้อมสูงสุดใช้เวลาในการเป็นรัฐมนตรีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ส่วนรัฐมนตรีที่จะปรับเข้ามาใหม่ก็ขอให้ตั้งตนบนความพร้อม เพราะงานของรัฐบาลรอไม่ได้ ไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนพีเรียด เพราะความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้

“หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคนั้น อยู่เป็นรัฐบาลร่วมกันแล้ว ไม่มีความสุข ไม่สามารถพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับให้งานของรัฐบาลขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ก็สามารถตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านได้ ถือเป็นวิถีของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนได้”นายอนุสรณ์

ขณะที่ ผลสำรวจประเด็น “คนไทยต้องการปรับ ครม.หรือไม่” ของคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเป็นการสำรวจทัศนคติและความคิดเห็นด้านสถานการณ์การศึกษาและปัญหาที่เป็นกระแสสังคม ในพื้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ คณะผู้วิจัยประยุกต์ใช้การวิจัยเชิงสำรวจด้วยการลงพื้นที่สัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า (face to face) และการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (phone survey) โดยใช้แบบสัมภาษณ์ผ่านช่องทางออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 11,802 ตัวอย่าง พบว่ากระทรวงที่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีมากที่สุด 5 อันดับ ปรากฎว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด หรือร้อยละ 46.75 ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีในส่วนของกระทรวงกลาโหมมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาอันดับ 2 คือ กระทรวงการคลัง ร้อยละ 41.86 อันดับ 3 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 38.26 อับดับ 4 กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 28.93 อันดับ 5 มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยละ 27.89 และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 27.88 ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น