สระแก้ว – อลหม่านด่านชายแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว หลังเกิดกระแสข่าวลือหนักในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาเรื่องไทยปิดด่าน ทำชาวบ้าน 2 ประเทศแห่ต่อคิวกลับบ้านทะลักด่านชายแดน ผู้ว่าฯ สระแก้ว ไม่รอช้าเร่งลงพื้นที่ยันข่าวดังกล่าวแค่เฟคนิวส์
จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและประชาชนในฝั่งไทยว่า ทางการไทยจะมีคำสั่ง "ปิดด่าน" เป็นการชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00 น. - 14.00 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) จนทำให้มีชาวบ้านทั้งไทยและกัมพูชาจำนวนมากเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น
โดยข่าวลือดังกล่าวได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านกลุ่มไลน์แม่ค้า พ่อค้าแม่ค้า และกลุ่มผู้ให้บริการรถเข็น ส่งผลให้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีประชาชนของทั้ง 2ประเทศแห่ไปรวมตัวกันที่บริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อเร่งเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่า "จะมีการปิดด่าน" จนทำให้บรรยากาศโดยรวมเกิดความตึงเครียด ผสมกับความสับสนวุ่นวายอย่างหนัก
ทำให้เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (13 มิ.ย.) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่จุดผ่านแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อควบคุมสถานการณ์และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าขณะนี้ยัง “ไม่มีคำสั่งปิดด่าน” และเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานตามนโยบายของฝ่ายความมั่นคงในเรื่องการร่นระยะเวลาในการเปิดปิดด่านชายแดน เพื่อความมั่นคงตามที่ได้มีการประกาศไปก่อนหน้า
พร้อมชี้แจงว่า "ข่าวลือเรื่องการปิดด่านในช่วงบ่ายไม่เป็นความจริง" โดยย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือ เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่แต่อย่างใด
และขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งปิดด่านเพิ่มเติมใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือ และอย่าตื่นตระหนก ขอให้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการลงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด สระแก้ว ทำให้บรรยากาศหน้าด่านที่ตึงเครียดอย่างหนัก เริ่มคลี่คลายลง และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าการข้ามแดนยังเป็นไปตามปกติตามแนวทางที่ฝ่ายความมั่นคงกำหนดไว้ และยังคงมีเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ตรึงกำลังดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางทั้งเข้าและออกอย่างใกล้ชิดอย่างเข้มแข็ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร ได้เร่งกระจายข่าวเรื่องการไม่ปิดด่าน ไปยังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กลุ่มขนส่งสินค้า และผู้นำชุมชนทั้ง 2 ประเทศชายแดน เพื่อสกัดข่าวลือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวซ้ำขึ้นอีก