MGR Online - โฆษกดีเอสไอ เผย ส่งตัว "บินลิง วู" ผู้ต้องหานอมินี สตง. ให้อัยการแล้ว ส่วนคดีฮั้วประมูล เตรียมสรุปสำนวนยื่น ป.ป.ช. สัปดาห์หน้า ฟัน 70 จนท.รัฐ
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยการสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 "คดีนอมินี" กรณี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เข้าเป็นกิจการร่วมค้า ITD-CREC คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ว่า วานนี้ (12 มิ.ย.) ดีเอสไอนำตัวผู้ต้องหารายสุดท้าย คือ นายบินลิง วู ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจะเป็นอำนาจของพนักงานอัยการ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากสำนวนส่งพนักงานอัยการไปแล้ว
พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ส่วน นายบินลิง วู ถูกจับกุมถึงแม้ไม่ได้ปรากฏชื่อในโครงสร้างกรรมการ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ แต่จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า 3 นอมินิคนไทยของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ไปมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการอีกหลายบริษัท ประมาณ 10 แห่ง ก็มีรายชื่อของ นายบินลิง วู เป็นกรรมการร่วมด้วย ดังนั้น ดีเอสไอจึงมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง รวมทั้ง นายบินลิง วู ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกจากนี้ บริษัทอื่นๆ ที่ปรากฏรายชื่อ 3 นอมินีคนไทยไปเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการนั้น ดีเอสไอจะขยายผลต่อไป
พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า สำหรับคดีฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมเอกสารและตรวจพยานหลักฐานจำนวนมาก เบื้องต้นมีเอกสารเกี่ยวข้องทั้งหมด 30 ลัง จำนวนหลายหมื่นแผ่น เตรียมส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีข้าราชการระดับสูง สตง. หรือไม่นั้น เป็นไปตามรายชื่อที่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางดีเอสไอให้ตรวจสอบ ซึ่งมีทั้งรายชื่อของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนจะเป็นบุคคลใดบ้าง ยังไม่ขอเปิดเผยและมีจำนวนประมาณ 70 คน
"ส่วนเรื่องตรวจสอบวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานในการก่อสร้าง ขณะนี้ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ทีการประสานกับ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์ ตามกำหนดคุณสมบัติ TOR ทั้งหมด กรณีที่มีการเปิดปฏิบัติการเก็บพยานหลักฐานทั้งปูนและเหล็กในที่เกิดเหตุ เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอให้ทาง สมอ. รายงานเรื่องมายังดีเอสไอ และหากพบความผิดปกติหรือความผิดเข้าข้อกฎหมายใด สมอ. จะเป็นผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป"
พ.ต.ต.วรณัน เผยด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบตึก สตง. มีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วน คือ 1.การรื้อถอนจะเป็นการดำเนินการของ กทม. 2.กรณีการบาดเจ็บเสียชีวิต สน.บางซื่อ เป็นผู้ดำเนินคดี 3.กรณีของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและการฮั้วประมูลให้ได้มาซึ่งสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ดำเนินการ และ 4.ผลการตรวจพิสูจน์ทางวิศวกรรม ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อหาสาเหตุการถล่มของตึก สตง. ซึ่งการตรวจเก็บวัสดุการก่อสร้างก็จะนำไปสู่ในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คดีฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง. ที่ดีเอสไอจะต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏรายชื่อ 4ผู้บริหารระดับสูง สตง. ในชุดอดีตและปัจจุบัน