MGR Online - "บินลิง วู" ผู้ต้องหารายสุดท้ายคดีนอมินี สตง. เข้ามอบตัวดีเอสไอ ปฏิเสธทุกข้อหา นำตัวส่งอัยการ ขอชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรใน 30 วัน
จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กรณี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เข้าเป็นกิจการร่วมค้า ITD-CREC คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว กระทั่งวันที่ 26 พ.ค.68 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 46 แฟ้ม จำนวน 17,620 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) กับพวก รวม 5 คน ส่งมอบให้แก่พนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษเพื่อให้พนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป
สำหรับ ผู้ต้องหาหาตามหมายจับ 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายโสภณ มีชัย 2.นายประจวบ ศิริเขตร 3.นายมานัส ศรีอนันท์ (3 คนไทยนอมินี) 4.นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และ 5.นายบินลิง วู นายทุนชาวจีน ผู้ต้องหารายเดียวซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี หากตามจับกุมตัวได้ภายหลังส่งสำนวนอัยการแล้วก็จะนำตัวมาแจ้งข้อหา และส่งตัวตามไปได้
วันนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมา “นายบินลิง วู” พร้อมด้วยทีมงานฝ่ายกฎหมาย เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอทำคำให้การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรส่งต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน โดย นายบินลิง วู สามารถพูดภาษาไทยได้ อ้างว่าก่อนหน้านี้ไม่เข้ามอบตัวนั้นเพราะเพิ่งทราบข่าวจึงตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว จึงได้มีการควบคุมตัวไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ ส่วนถ้าผู้ต้องหาจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ก็ต้องยื่นต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากสำนวนคดีดังกล่าวดีเอสไอได้สรุปส่งสำนวนไปยังอัยการเรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเป็นขั้นตอนของพนักงานอัยการคดีพิเศษ ที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปสั่งฟ้องต่อศาลตามกรอบเวลา
อย่างไรก็ตาม ศาลอาญารัชดาภิเษก ได้มีการอนุมัติออกหมายจับ นายบินลิง วู ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.68 และจากการสืบสวนยังพบว่าอยู่ในประเทศไทยตลอด แต่ลักษณะเหมือนอยู่ในเซฟเฮาส์ มีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และมีบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือ