รองนายกฯจีนที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้ากับฝ่ายสหรัฐ บอกว่า ปักกิ่งพร้อมแล้วที่จะ “เพิ่มความร่วมมืออย่างแข็งแรง” กับวอชิงตัน สื่อมวลชนภาครัฐของจีนรายงานในวันพุธ (11 มิ.ย.) ภายหลังการพูดจากันที่กรุงลอนดอนระหว่าง 2 ประเทศเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลกเป็นเวลา 2 วันเสร็จสิ้นลง โดยที่ต่างฝ่ายต่างแถลงว่าสามารถสร้างความคืบหน้าได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
ฮาวเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นภายหลังจบการหารือที่ลอนดอนในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ว่า ข้อกังวลเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากหรือแรร์เอิร์ธและแม่เหล็กทำจากแรร์เอิร์ธ จะได้รับการแก้ไขในที่สุด ในเมื่อกำลังมีการปฏิบัติตามข้อตกลง
อย่างไรก็ดี พวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า กรอบข้อตกลงที่คุยกันลงตัวในครั้งนี้ ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้นำของทั้งสองประเทศก่อน
ทั่วโลกต่างเฝ้ารอผลการเจรจา ขณะที่สหรัฐฯกับจีนพยายามแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับข้อจำกัดการส่งออก ซึ่งทำให้ข้อตกลงสงบศึกการค้าจากการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วที่เจนีวาสั่นคลอน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาปักกิ่งถ่วงเวลาการอนุมัติการจัดส่งแรร์เอิร์ธ ขณะเดียวกัน ปักกิ่งก็แสดงความไม่พอใจที่วอชิงตันได้ประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้แก่จีน รวมทั้งเพิ่มความยุ่งยากในการออกวีซาให้นักศึกษาชาวจีน
นอกจากนั้นแล้ว ถึงแม้การหารือที่เจนีวา ทำให้สองฝ่ายลดอัตราภาษีศุลกากรที่ขึ้นตอบโต้กันจนอยู่ในระดับตัวเลข 3 หลักลงมาได้อย่างมโหฬาร ทว่ามันยังเป็นแค่การตกลงสงบศึกชั่วคราวอายุ 90 วัน ซึ่งจะต้องเจรจาให้เกิดข้อตกลงที่ยืนยาวกันต่อไปอีก
ภายหลังการพูดจาที่ลอนดอนสิ้นสุดลงในวันอังคาร เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า การเจรจากำลังคืบหน้าอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และต่างฝ่ายมีโอกาสมากที่สุดที่จะพบข้อตกลงซึ่งสมเหตุสมผลสำหรับประเทศทั้งสอง ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างกันมีความซับซ้อนมาก ก่อนจะกล่าวสำทับว่า ฝ่ายสหรัฐฯมีความรู้สึกในแง่บวกในการมีปฏิสัมพันธ์กับฝ่ายจีน
ส่วนรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะของสหรัฐฯ ทว่าต้องเดินทางกลับวอชิงตันก่อนจบการเจรจา เพราะมีนัดไปชี้แจงในรัฐสภา ก็แถลงเอาไว้ว่า การเจรจามีผลลัพธ์ที่ดี
ด้านหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ลอนดอนในวันเดียวกันว่า การหารือมีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสม เจาะลึก และจริงใจมาก พร้อมแสดงความหวังว่า ความคืบหน้านี้จะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างกัน
นอกจากนั้นในบันทึกรายงานการหารือที่ลอนดอนซึ่งสื่อมวลชนภาครัฐของจีนนำออกมาเผยแพร่ในวันพุธ รองนายกรัฐมนตรี เหอ ลี่เฟิง ก็ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ทั้งสองฝ่ายต้องเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่ความร่วมมือกันในการสนทนากันต่อไปในอนาคต
“สำหรับขั้นตอนต่อไป ทั้งสองฝ่ายควร ... เพิ่มพูนฉันทามติ, ลดความเข้าใจผิด, และเพิ่มความเข้มแข็งในการร่วมมือกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง” เหอ กล่าว
ทางด้าน เวนดี้ คัตเลอร์ อดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นกับสำนักข่าวเอพีว่า ข้อขัดแย้งก่อนหน้านี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียเวลาในการพยายามแก้ไขข้อพิพาทไป 30 วัน จากข้อตกลงสงบศึกการค้าชั่วคราว 90 วันที่เริ่มต้นเมื่อเดือนที่แล้ว และตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 60 วันในการแก้ไขข้อกังวลที่ยังมีอยู่จำนวนมาก
นับจากการเจรจาที่เจนีวา อเมริกาและจีนปะทะคารมกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับการที่สหรัฐนกีดกันการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง การออกวีซ่าสำหรับนักศึกษาจีนที่ต้องการไปเรียนต่อที่อเมริกา ส่วนสหรัฐฯก็กล่าวหาว่าปักกิ่งชะลอการออกใบอนุญาตจัดส่งแร่ธาตุหายากที่จำเป็นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอีกมากมาย
ทั้งนี้ ลุตนิกเปิดเผยภายหลังการหารือที่ลอนดอนว่า การแก้ปัญหาแรร์เอิร์ธเป็นประเด็นหลักของกรอบข้อตกลงล่าสุด และอเมริกาจะผ่อนคลายมาตรการตอบโต้ต่อการจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธของจีนก่อนหน้านี้ หลังจากที่ปักกิ่งออกใบอนุญาตการส่งออกแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ลุตนิกไม่ได้แจงว่า อเมริกาจะผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการใด
ขณะเดียวกัน เริ่มปรากฏสัญญาณการผ่อนคลายข้อจำกัดในจีน โดยเมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.) บริษัทแม่เหล็กที่จดทะเบียนในตลาดเซินเจิ้นหลายแห่ง เปิดเผยว่า ได้รับใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลจีนแล้ว
ทางด้านคัตเลอร์ที่ปัจจุบันเป็นรองประธานสถาบันนโยบายสังคมของสมาคมเอเชีย เสริมว่า อเมริกาไม่เคยยอมเจรจาเรื่องมาตรการควบคุมการส่งออกมาก่อน ถึงแม้เป็นประเด็นที่จีนขุ่นเคืองและพยายามเรียกร้องให้หารือมานานเกือบ 20 ปี ดังนั้น ผลลัพธ์จากการหารือที่ลอนดอนจึงเท่ากับว่า อเมริกาเปิดโอกาสให้จีนยืนกรานให้นำเรื่องมาตรการควบคุมการส่งออกเข้าสู่วาระการหารือครั้งต่อๆ ไป
(ที่มา: เอเอฟพี/เอพี/รอยเตอร์)