xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์ปลุกใจทหาร ‘ปลดแอกแอลเอ’ ผู้ว่าแคลิฟอร์เนียจวกพฤติกรรม ‘ทรราช’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ทางหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย ปะทะกับพวกผู้ประท้วง เมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.ป ที่เมืองลองแองเจลิส
หลายเมืองในอเมริกาเตรียมพร้อมรับมือการประท้วง ขณะที่ทรัมป์ปลุกใจทหาร “ปลดแอกแอลเอ” ด้านผู้ว่าการแคลิฟอร์เนียจวกการส่งทหารเข้าลอสแองเจลิสเป็นพฤติกรรมของ “ทรราช” เตือนแคลิฟอร์เนียไม่ใช่รัฐเดียวที่จะเผชิญการลุแก่อำนาจของทรัมป์ ด้านนายกเทศมนตรีแอลเอประกาศเคอร์ฟิวบางพื้นที่เพื่อป้องกันการปล้นและทำลายทรัพย์สิน

การใช้มาตรการพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการส่งกองกำลังป้องกันชาติ (เนชั่นแนลการ์ด) ที่เป็นกำลังทหารสำรอง และกระทั่งทหารประจำการแท้ๆ อย่างนาวิกโยธิน ไปกำราบพวกผู้ประท้วงต่อต้านการปราบปรามจับกุมพวกผู้อพยพในลอสแองเจลิส จุดชนวนการวิพากษ์วิจารณ์ทั่วประเทศเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารในผืนแผ่นดินอเมริกา และความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างทรัมป์ ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน กับ แกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เป็นนักการเมืองคนสำคัญคนหนึ่งของพรรคเดโมแครตในปัจจุบัน

นิวซอม ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่า กำลังเตรียมตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2028 ปราศรัยผ่านทางวิดีโอเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.) ว่า การลุแก่อำนาจอย่างไร้ยางอายของประธานาธิบดี ปลุกเร้าให้สถานการณ์ในแอลเอลุกลามและมีแนวโน้มเกิดความรุนแรง อีกทั้งทำให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองกำลังป้องกันชาติตกอยู่ในความเสี่ยงอันเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรอุบาทว์

เขาโจมตีว่า การส่งทหารเข้าสู่แอลเอของทรัมป์เป็นพฤติกรรมของทรราช ไม่ใช่ประธานาธิบดี ก่อนสำทับว่า แคลิฟอร์เนียอาจเป็นรัฐแรก แต่ชัดเจนว่า จะไม่ใช่รัฐสุดท้าย

ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ นิวซอมและรัฐแคลิฟอร์เนียได้ยื่นฟ้องทรัมป์และกระทรวงกลาโหมต่อศาลสหรัฐฯ เพื่อขอให้ระงับคำสั่งในการนำกองทหารของรัฐบาลกลางเข้าแทรกแซงสถานการณ์ภายในรัฐ ซึ่งทางฝ่ายทรัมป์ตอบโต้ว่า นิวซอมต่างหากที่ควรถูกจับกุม ฐานขัดขวางการปฏิบัติตามกฎหมายปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมาย

ในวันอังคาร นาวิกโยธินหลายร้อยนายเดินทางถึงแอลเอตามคำสั่งของทรัมป์ หลังจากก่อนหน้านั้นได้ส่งสมาชิกกองกำลังป้องกันชาติ 4,000 นายไปแล้ว โดยกองกำลังทั้งสองหน่วยนี้จะทำหน้าที่คุ้มกันเจ้าหน้าที่และอาคารของรัฐบาลกลาง ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและการปราบปรามการกระทำผิด

ร็อบ บอนตา อัยการสูงสุดของแคลิฟอร์เนีย แสดงความกังวลว่า การนำกำลังทหารมาคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางอาจละเมิดกฎหมายปี 1878 ที่ห้ามกองทัพ ซึ่งรวมถึงกองกำลังป้องกันชาติ จากการมีส่วนร่วมในการบังคับใช้กฎหมายของพลเรือน

คาเรน เบสส์ นายกเทศมนตรีแอลเอ ย้ำว่า ตำรวจแอลเอสามารถควบคุมจัดการการประท้วงได้โดยไม่ต้องพึ่งกำลังทหาร และส่วนใหญ่เป็นการประท้วงอย่างสันติ อีกทั้งจำกัดอยู่บนถนนราว 5 สายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เบสส์ออกคำสั่งเคอร์ฟิวในพื้นที่ราว 2.5 ตารางกิโลเมตรในย่านดาวน์ทาวน์แอลเอช่วงกลางคืนจนถึง 6.00 น. เนื่องจากมีกลุ่มผู้ฉวยโอกาสปล้นและก่อความรุนแรง โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่คืนวันอังคาร

ทางด้านตำรวจเผยว่า ผู้ชุมนุมหลายกลุ่มยังอยู่บนถนนในบางพื้นที่แม้มีคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และตำรวจเริ่มจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งจำนวนมาก โดยในวันอังคารมีผู้ถูกจับกุม 197 คน หรือเกินสองเท่าตัวของจำนวนผู้ที่ถูกจับทั้งหมดนับจากที่การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ (6)

บรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตต่างแสดงความกังวลกับสถานการณ์ในแอลเอซึ่งถือเป็นวิกฤตการณ์ระดับประเทศ และเป็นสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดจากความพยายามของคณะบริหารของทรัมป์เพื่อกวาดล้างผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย แล้วลุกลามมาปราบปรามผู้ประท้วงมาตรการนี้ที่ชุมนุมกันบนท้องถนน

เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ที่ได้รับเลือกกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สองจากคำสัญญาในการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมือง ได้กล่าวปราศรัยปลุกใจทหารและปกป้องคำสั่งของตนเองระหว่างเดินทางไปยังฐานทัพฟอร์ตแบรกก์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียคือการโจมตีสันติภาพ ความสงบเรียบร้อย และอธิปไตยของชาติ โดยม็อบที่ชูธงประเทศอื่น ก่อนสำทับว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้เมืองของอเมริกาถูกรุกรานและครอบงำโดยข้าศึกต่างชาติ และ “จะปลดแอกแอลเอ”

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงบางคนโบกธงชาติเม็กซิโกและประเทศอื่นๆ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้อพยพที่ถูกบุกจับในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ไม่เฉพาะแค่แอลเอ ยังมีรายงานว่า เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองอื่นๆ ของสหรับนอีกหลายแห่ง เป็นต้นว่า นิวยอร์ก แอตแลนตา ชิคาโก ซึ่งผู้ชุมนุมตะโกนใส่และปะทะกับตำรวจ และบางคนเรียกร้องให้ยุบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ไอซ์)

เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการเทกซัสสังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศว่า จะระดมกองกำลังป้องกันชาติมาเตรียมพร้อมรับมือการประท้วงต่อต้านไอซ์ที่คาดว่า จะจัดขึ้นในวันพุธ และเสาร์ (14 มิ.ย.) โดยเมื่อวันจันทร์ (9 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจมาแล้วในเมืองออสติน

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น