xs
xsm
sm
md
lg

เผยเบื้องหลังแกะรอยหมอแอร์ 3 ปีสั่งซื้ออัลปราโซแลม 15 ล้าน กระจายร้านขายยา-นักค้ายาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายหมอแอร์ ค้ายาเสียสาว พร้อมของกลาง 170,400 เม็ด พบสั่งซื้อยา 15 ล้านบาท จาก 12 คลินิก แต่หมอแอร์จ่ายคนเดียว ใช้ไรเดอร์เป็นม้าเร็ว กระจายตามร้านขายยา และนักค้ายาเสพติดในกรุงเทพฯ เผย ผบ.ตร.สั่ง รพ.ตำรวจ เอาผิดหมอคนดังทั้งทางวินัยและอาญา

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่าย พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี เพ็ชรรัตน์ หรือหมอแอร์ กรณีแอบอ้างคลินิก 11 แห่งสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม โดยมีการสวมสิทธิ์ผู้ตาย 370 ราย

โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ย. 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบการสั่งซื้อวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ที่ผิดปกติ จึงมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดทำการสืบสวนขบวนการดังกล่าว เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 คน และจับกุมผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุอีก 2 คน รวม 7 คน พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 จำนวน 170,400 เม็ด โดย ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำว่าเรื่องดังกล่าวได้สั่งให้ บช.ปส. ติดตามขยายผลมานานแล้ว และได้แกะรอยมาเรื่อย ส่วนที่ข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องได้สั่งการเรื่องวินัยกฎหมายให้เป็นไปโดยเคร่งครัด โดย ผบ.ตร. สั่งการให้โรงพยาบาลตำรวจให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นข้อหาที่ 2 สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่สมคบกันแล้ว ซึ่ง บช.ปส. จะได้ออกมาตรการยึดทรัพย์และดำเนินการในข้อหาฟอกเงิน

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ทาง บช.ปส. ได้รับการสานงานและได้รับการร้องทุกข์จาก อย. เกี่ยวกับพฤติกรรมการทำความผิดในกลุ่มนี้ ตั้งแต่ได้รับคำร้องทุกข์ ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด การดำเนินการทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา พฤติการณ์ตั้งแต่การสั่งซื้อ ให้นายทุนไปจำหน่าย แล้วขายให้ผู้ค้ารายย่อย ได้ดำเนินการสอบสวน เห็นการกระทำความผิดตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไล่เส้นทางการเงินตั้งแต่ล่างขึ้นบน บนขึ้นล่าง สามารถสอดคล้องกัน พยานหลักฐานชัดเจน ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับ ส่วนหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจ ทาง ผบ.ตร.ได้รับทราบและเน้นย้ำว่า หากมีข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นใคร เราดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

สำหรับผู้ต้องหาได้ให้การเป็นประโยชน์กับคดี สามารถใช้ประโยชน์ในการแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ และจากเส้นทางการเงินซื้อยาจาก อย. และโอนกลับมาให้ผู้ต้องหาถือว่ามากพอ

พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กล่าวว่า คดีนี้เริ่มจาก อย. มีข้อสงสัยว่าอาจนำวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 ออกนอกระบบของคลินิก ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงนำกำลังไปเฝ้า กระทั่งพบว่ามีการนำยาออกนอกระบบจริงไปยังแฟลตของทางราชการในเขตพญาไท โดยมีลูกน้องหมอแอร์เฝ้า และนำส่งไปอีกจุดหนึ่ง เป็นอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่วังทองหลาง มีผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ดูแล มีหน้าที่เก็บรักษาและจำหน่ายยาให้ลูกค้าที่ต้องการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งทางตำรวจ ปส. ตามต่อพบว่าได้นำไปขายให้นายอรชุน ผู้ต้องหาที่ 5 นำเข้าไปให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการจับกุมเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ตรวจยึดยาออกฤทธิ์ประเภท 2 ไดอะซีแพมประมาณ 600 เม็ด ก่อนออกหมายในคดี 5 หมาย และออกหมายค้น 9 หมาย

สำหรับกลุ่มที่รับซื้อยาจากการสืบสวนและสอบปากคำ พบข้อมูลว่ามีการนำไปแจกจ่ายให้กับร้านขายยา มีการนำไปให้กลุ่มนักค้ายาเสพติดในกรุงเทพฯ ตอนนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กำลังดำเนินการขยายผลอยู่

ด้านนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำนักงาน อย. ได้แจ้งข่าวให้ทราบว่า มีการการซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เช่น อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นยาที่ทำให้คลายเครียด หรือใช้ในเรื่องการรักษายาซึมเศร้า ในปี 2565 มีคลินิก 5 แห่ง สั่งซื้อตัวยาดังกล่าวเข้ามาหลายประเภท ยอดสั่งซื้อประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ในปี 2566 มีจำนวนคลินิกเพิ่มเป็น 7 แห่ง ยอดสั่งซื้อเป็น 4 ล้านบาทเศษ ในปี 2567 เพิ่มเป็น 11 แห่ง ยอดสั่งซื้อประมาณ 7-8 ล้านบาท ในปี 2568 มีการขยายตัวเพิ่มเป็น 12 แห่ง เป็นการตั้งข้อสังเกตของ อย. ว่ามีการเกี่ยวข้องกับแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการจิตเวช จึงมีการขออนุญาตซื้อยาดังกล่าวตามระเบียบราชการ

แต่พบความผิดปกติ คือ มีการสั่งซื้อยาจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าโรงพยาบาล ที่ไม่ได้ใช้มากขึ้นขนาดนี้ จึงมีการเตรียมขยายผลว่าเกิดอะไรขึ้น โดยทาง อย. จะได้รับการรายงานจากคลินิกกลับมาว่า ได้ขายยาไปให้ใคร ซึ่งการรายงานพบว่า มีบัญชีรายชื่อของผู้ป่วยแฝงไปด้วยคนเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2547-2567 มาสวมชื่อในการซื้อยา โดยประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมามี 250 ราย และอีกชุดหนึ่งมี 120 ราย คาดว่าจะมีรายชื่อมากกว่านี้ โดยพบว่าคลินิก 12 แห่ง มีการสั่งซื้อยาแตกต่างกันไป แล้วนำยามาขออนุมัติการสั่งซื้อจาก อย. ซึ่ง อย. จะส่งทางไปรษณีย์ตามระเบียบปกติ พบว่าคนที่ชำระเงินเป็นหมอแอร์คนเดียวทั้งหมด หลังจากนั้นจะนำยาไปส่งตามคลินิก ก็จะรวบรวมให้ไรเดอร์ไปรับยาตามจุดต่างๆ เช่น แฟลตตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักเก็บยา จากนี้ไป อย. จะร่วมกับ ตำรวจ บช.ปส. รวมทั้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในการเข้าตรวจค้นคลินิกดังกล่าวเพื่อขยายผลในเรื่องนี้ต่อไป

ขณะที่ นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. ชี้แจงว่า การสั่งซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เช่น อัลปราโซแลม ต้องดำเนินการผ่าน อย. ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว และอนุญาตให้เฉพาะผู้มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมสั่งซื้อเพื่อนำไปใช้ในสถานพยาบาลที่ระบุไว้เท่านั้น โดยมีการกำหนดปริมาณขั้นสูงต่อปี หากไม่ใช่คลินิกรับผู้ป่วยค้างคืน แม้จะมีการสั่งซื้ออย่างถูกต้อง แต่พบว่ามียาบางส่วนไม่ได้นำไปใช้รักษาผู้ป่วยจริง กลับถูกนำไปขายต่อ อย. ตรวจพบความผิดปกติกลางปี 2567 และตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2565 โดยภาพรวมพบว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีการสั่งซื้อยารวม 15 ล้านบาท ซึ่งตรวจสอบเป็นประจำว่ายานำไปใช้กับผู้ป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งแต่ละคลินิกจะต้องทำรายงานไปที่ อย. และจัดเก็บไว้ พบตัวเลขที่มากและบ่อยผิดปกติ รวมทั้งผู้ที่ชำระเงิน








กำลังโหลดความคิดเห็น