ทีมเจรจาอเมริกา-จีนหารือต่อเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ลุ้นผ่าทางตันเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธของปักกิ่ง ขณะที่ทำเนียบขาวแย้มอาจตอบแทนด้วยการยกเลิกการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์บางรายการ ด้านทรัมป์เผยการเจรจาวันแรกเป็นไปด้วยดี แต่ยอมรับการคุยกับจีน “ไม่ง่าย”
นักลงทุนต่างหวังว่า ความสัมพันธ์ของสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น หลังจากมีการตกลงที่เจนีวาเดือนที่แล้วในการลดภาษีศุลกากรในอัตราเลข 3 หลักที่สองฝ่ายตอบโต้กัน รวมทั้งชะลอการบังคับใช้นาน 90 วัน
ทว่า ไม่นานความหวังเหล่านั้นกลับลางเลือนลง เมื่อวอชิงตันกล่าวหาปักกิ่งปิดกั้นการส่งออกแร่ธาตุหายากหรือแรร์เอิร์ธที่สำคัญจำเป็นต่ออุตสาหกรรมมากมาย ซึ่งรวมถึงยานยนต์ การบินและอวกาศ เซมิคอนดักเตอร์ และการทหาร และตอบโต้ด้วยการระงับการจัดส่งซอฟต์แวร์ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ สารเคมี และอุปกรณ์การบินให้จีน
กระนั้น เมื่อวันจันทร์ (9 มิ.ย.) เควิน แฮสเส็ตต์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว เผยว่า มีแนวโน้มที่อเมริกาจะตกลงยกเลิกการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์บางรายการ เพื่อตอบแทนที่จีนเร่งรัดการจัดส่งแรร์เอิร์ธ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การหารือในวันจันทร์เป็นไปด้วยดี แม้ยอมรับว่า การคุยกับจีนไม่ง่ายก็ตาม
นโยบายภาษีศุลกากรที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกปั่นป่วน ท่าเรือใหญ่แออัดและวุ่นวาย บริษัทมากมายเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์เนื่องจากยอดขายหดแต่ต้นทุนเพิ่ม
การเจรจาการค้ารอบที่สองที่ลอนดอนซึ่งตกลงจัดขึ้นภายหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญสำหรับทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ข้อมูลศุลกากรที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่า การส่งออกของจีนไปยังอเมริกาลดลงถึง 34.5% ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า ลดลงมากที่สุดนับจากการระบาดของโควิด-19
ส่วนที่อเมริกานั้น แม้ผลกระทบจากเงินเฟ้อและตลาดแรงงานเบาลง แต่ภาษีศุลกากรของทรัมป์กำลังทำลายความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน อีกทั้งทำให้ค่าดอลลาร์ถูกกดดัน
ในการเจรจารอบสองที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันจันทร์ ณ อาคารแลงคาสเตอร์เฮาส์ ในลอนดอน และใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงนั้น ทีมเจรจาของอเมริกานำโดยสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ขณะที่ทีมของจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิง, หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์ และหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนเจรจาการค้า
สำหรับวันอังคาร การเจรจากำหนดเริ่มต้นหลังเวลา 9.00 น. ตามมาตรฐานเมืองกรีนิช (16.00 น. ตามเวลาไทย) โดยคาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะแถลงความคืบหน้าหลังเสร็จสิ้นการหารือ
การที่ ลุตนิก เจ้ากระทรวงพาณิชย์ซึ่งรับผิดชอบการควบคุมการส่งออกของอเมริกา เข้าร่วมการเจรจารอบนี้ บ่งชี้ว่า ประเด็นสำคัญในการหารือคือแรร์เอิร์ธ รวมทั้งยังเป็นสัญญาณว่า ทรัมป์ยินดีให้ที่ประชุมหารือเรื่องมาตรการจำกัดการส่งออกเทคที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศใช้เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ สำหรับแรร์เอิร์ธนั้น จีนอยู่ในสถานะเกือบผูกขาดแม่เหล็กที่ทำจากส่วนประกอบของแรร์เอิร์ธ โดยที่แม่เหล็กเช่นนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตมอเตอร์รถอีวี และการที่ปักกิ่งตัดสินใจระงับการส่งออกแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด รวมทั้งแม่เหล็กในเดือนเมษายน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และจุดชนวนความกังวลในหมู่ผู้บริหารและผู้ผลิตทั่วโลก
เคลลี่ แอนน์ ชอว์ อดีตที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวในสมัยทรัมป์ 1.0 และปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนด้านการค้าของอะคิน กัมป์ บริษัทกฎหมายในวอชิงตัน คาดว่า ในการเจรจาครั้งนี้ จีนจะย้ำความมุ่งมั่นในการยกเลิกมาตรการตอบโต้ที่รวมถึงการจำกัดการส่งออก ขณะที่อเมริกาอาจยอมผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกบางอย่าง แต่ไม่ใช่การควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
อย่างไรก็ตาม เอียน เบรมเมอร์ ประธานยูเรเซีย กรุ๊ป กล่าวว่า แม้เป็นไปได้ว่า อาจมีการตกลงสงบศึกการค้าชั่วคราว แต่มีแนวโน้มน้อยมากที่ความสัมพันธ์จีน-อเมริกาจะมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม โดยอ้างอิงแนวโน้มในการตัดขาดจากกันหลายๆ ด้าน รวมถึงการที่วอชิงตันยังคงกดดันประเทศอื่นๆ ให้ตัดจีนออกจากระบบห่วงโซ่อุปทาน
(ที่มา: รอยเตอร์/เอพี)