xs
xsm
sm
md
lg

จี้เปลี่ยนตัวหัวหน้า JBC ฝ่ายไทย “วีระ” แฉเคยบีบตนให้ยอมรับรุกดินแดนเขมร แถมด่าเป็นตัวปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“วีระ” แฉ “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” หัวหน้าคณะ JBC ฝ่ายไทย เคยบีบบังคับให้ตนยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนเขมร แถมด่าว่าเป็นตัวปัญหาทำให้กลับมาฉลองปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ จี้เปลี่ยนตัวด่วน หวั่นทำประเทศไทยเสียหาย

วันนี้(10 มิ.ย.) นายวีระ สมความคิด กล่าวระหว่างร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และภาคประชาชน ไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม ว่า ตนไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าหัวหน้าคณะเจรจา JBC ฝ่ายไทยในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ คือนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ในอดีตเมื่อปี 2553 เมื่อครั้งที่ 7 คนไทยถูกจับบริเวณชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร

“ผมเนี่ยถูกจับไปติดคุกที่เรือนจําเปซอร์นะครับ กรุงพนมเปญ เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน 3 วัน คุณราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ ต้องไปติดคุกอยู่ 2 ปี 1 เดือน ทั้งๆ ที่เรานี่อยู่บนแผ่นดินไทย ที่บ้านหนองจาน มีเอกสาร มีหลักฐานทั้งหมด ชาวบ้านทุกวันนี้พร้อมที่จะออกมายืนยันกับคนทั้งประเทศ กับคนทั้งโลกว่าพื้นที่ตรงนั้น หลักเขต 46 มี น.ส. 3 ของนายเข็ม เพ็งลานูน ติดกับหลักเขตที่ 46 เลย

“แต่พอเราถูกจับเนี่ย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ออกไปนะครับ ถึงกรุงพนมเปญมาบีบเรา บีบผม บีบคุณราตรีให้ยอมรับว่าเราเข้าไปอยู่ในเขตของกัมพูชา อยู่ในเขตของเขมร พอเราไม่ยอมรับเราก็ถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานา

“ผมยืนยันเลยนะครับ แล้วคุณประศาสน์เนี่ยไปชี้หน้าด่าผมที่ศาลกัมพูชาในวันที่ 30 ธันวาคม ประมาณ 10 โมงกว่า ไปชี้หน้าด่าผมหาว่าผมเนี่ยเป็นตัวปัญหา ทําให้แกไม่สามารถกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ

“ดูสิครับ ทั้งๆ ที่เขมรจับผมในแผ่นดินไทย และผมไม่ยอมเซ็นที่จะยอมรับทนายเขมร 2 คนที่ให้มาเป็นทนายพวกผมทั้ง 7 คน คนอื่นเขาเซ็น ผมไม่เซ็นคนเดียว ผมไม่ยอมรับ นายประศาสน์ก็มาบีบผม แล้วก็ให้ผมยอมรับว่าเราพลาดเราเข้าไปในเขตประเทศเขา มันเขตประเทศเขาได้ยังไง มันเขตประเทศไทยนะครับ

“คุณราตรีนี่ก็ถูกแกล้งตอนที่ได้รับการประกันตัวไปอยู่ที่สถานทูตนะครับ สถานทูตไทยที่พนมเปญคุณราตรีก็ไม่ยอมเซ็นหนังสือที่ให้ยอมรับผิดว่าเข้าประเทศกัมพูชาคุณราตรีก็เลยต้องถูกยัดข้อหาว่าเป็นสายลับร่วมกับผม

“ผมติดคุกที่กัมพูชา ไม่ได้ติดคุกในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายข้อหาเดียว ผมกับคุณราตรีเพราะไม่ยอมรับว่าเราเข้าประเทศเขมร มันเลยยัดข้อหาผมกับคุณราตรีเพียง 2 คนเท่านั้นว่าเป็นสายลับ ไปจารกรรมความลับในเขมรนะครับ

“วันนี้ผมจะต้องขอยืนยันนะครับว่าถ้าประเทศไทยจะให้นายประศาสน์เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ผมว่าประเทศไทยเสียหาย แล้วก็เกิดความเสียหายขึ้นมาจริงเนี่ยรัฐบาลคุณแพทองธาร ต้องรับผิดชอบนะ” นายวีระกล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วง1-2 วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในส่วนของฝ่ายไทยวงเล็ก ที่กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเตรียมการประชุมที่กรุงพนมเปญในวันที่ 14 มิถุนายนนี้

สำหรับ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) มีอำนาจหน้าที่พิจารณาและเจรจาปัญหาเส้นเขตแดนเทางบกระหว่างไทยกับกับกัมพูชา รวมถึงดำเนินการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา และมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการ คณะทำงาน เพื่อช่วยปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

องค์ประกอบคณะกรรมาธิการประกอบด้วย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประธานคณะกรรมาธิการฯ,ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทน เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการฯ

ส่วนคณะกรรมาธิการ ได้แก่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือผู้แทน,เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ หรือผู้แทน,อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ,อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก หรือผู้แทน ,อธิบดีกรมการปกครอง หรือผู้แทน,เจ้ากรมแผนที่ทหาร หรือผู้แทน,เจ้ากรมอุทกศาสตร์ หรือผู้แทน,ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือผู้แทน,รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย, ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย,ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย,ผู้แทนกองทัพบก,ผู้แทนกองทัพเรือ

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมาธิการและเลขานุการ,เจ้าหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมาธิการและผู้ช่วยเลขานุการ

โดยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าได้แต่งตั้งพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการนี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น