xs
xsm
sm
md
lg

แพทองธารย้ำกรณีไทย-กัมพูชา ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก แต่ MOU ขอแก้ทีละปม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นายกรัฐมนตรีย้ำพยายามเต็มที่คลี่คลายความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เน้นสันติวิธีไม่มีปะทะ ส่วนกัมพูชาจะฟ้องศาลโลกไทยไม่ยอมรับ ไม่ได้ปิดด่านถาวรหวั่นกระทบค้าขายชายแดน ส่วนข้อเรียกร้องยกเลิก MOU ขอพิจารณาเป็นเรื่องต่อเรื่อง แก้ทีละปม

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า เรื่องของชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ขัดแย้งตามแนวชายแดน มีการปฏิบัติงานร่วมกัน ผ่านการพูดคุยหลายภาคส่วน ตอนนี้ผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี ส่วนระดับนโยบาย รัฐบาลได้พูดคุยกับหน่วยงานความมั่นคง กองทัพ ตลอดจนการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศตามกรอบความร่วมมือของทวิภาคี ได้คุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และระหว่างกระทรวงได้คุยกันทุกหน่วยงานทั้งไทยและกัมพูชา

ส่วนตัวได้คุยกับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีการประสานงานกันและเจรจาทั้งหมดเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติและผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือเราสามารถเรจากันด้วยสันติวิธี ทำให้ไม่ต้องมีการปะทะกันที่รุนแรงเกิดขึ้น ส่วนในระดับพื้นที่ทางหน่วยงานความมั่นคงและกองทัพได้มีการประสานกับผู้นำเหล่าทัพของกัมพูชาหลายครั้งเพื่อพูดคุยเจรจากันในบริเวณชายแดน และแต่ละหน่วยก็มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นการพูดคุยเป็นไปด้วยดี

ขณะที่สมเด็จฯ ฮุนเซนมีการประสานงานส่งผู้นำเหล่าทัพและอดีตรองนายกรัฐมนตรี นายญึก บุญชัย เพื่อขอความร่วมมือดำเนินการแก้ไข สำรวจบริเวณพื้นที่พิพาทด้วยตัวเอง และได้รายงานให้สมเด็จฯ ฮุนเซนเรียบร้อย ซึ่งเข้าใจตรงกันมากขึ้น และมีการปรับกำลังพลในพื้นที่ให้อยู่ในสถานการณ์ปกติ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ยังมีกำลังพลตามเดิม ส่วนกระทรวงการต่างประเทศย้ำในเรื่องของการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย. มีการยืนยันในทุกระดับแล้ว ทั้งกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการประชุมขึ้นแน่นอน ซึ่งจะรายงานผลอีกครั้ง

ส่วนที่กัมพูชาจะส่งเรื่องไปที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) รัฐบาลไทยยืนยันว่าไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก โดยที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการผ่านพิธีทางการทูต ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็น Best Practice (แนวปฏิบัติที่ดี) อยู่แล้ว ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเวทีสากล มีผลลัพธ์ที่ออกมาดีมาโดยตลอด เรื่องนี้ในบางครั้งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชนได้ เพราะเป็นการเคารพการพูดคุยในเรื่องของข้อมูลของทั้งสองประเทศด้วย

ส่วนมาตรการระหว่างชายแดนต่างๆ มีการกำชับให้มีการเปิดปิดด่านชายแดนตามกรอบเวลาที่กำหนด ไม่ได้มีการปิดด่านถาวรตามที่มีข่าวลือออกมา เพราะทราบดีว่าตรงนั้นมีการค้าขายระหว่างประเทศด้วย ถ้าปิดก็จะเกิดผลเสียกับประชาชน เพราะฉะนั้นก็จะมีมาตรการรัดกุมในเรื่องเวลาเปิดปิด ทั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้มีส่วนในการเจรจาครั้งนี้ด้วย เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้คุยกับหัวหน้าหน่วยทุกหน่วย ซึ่งได้รายงานตรงตลอดเวลา และบางอย่างไม่ให้นายกฯ ออกมาพูดได้ เพราะจะเกิดผลกระทบที่ค่อนข้างจะไม่ดี แต่มีหลายข้อมูลที่เล็ดรอดออกไปบ้าง มีการบอกกับกับพูชา พูดคุยกันได้ และเข้าใจซึ่งกันและกัน

พร้อมกันนี้ น.ส.แพทองธาร ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สร้างความแตกแยกกันเองภายในประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยสันติวิธี ผู้ประกอบการตรงนั้นจะได้มีความมั่นใจด้วย รัฐบาลขอยืนยันอีกครั้งว่าการเจรจาทั้งหมดผ่านไปด้วยดี เน้นย้ำว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจว่าไม่มีสงครามแน่นอน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ค่ะ

เมื่อถามว่า ท่าทีของผู้นำกัมพูชา ล่าสุดมีนัยยะในเชิงลบว่าจะมีการตัดกำลัง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ มีการสื่อสารในเรื่องนี้ในลักษณะคล้ายกันในระดับหลายจุด เช่น การจะพูดคำว่าถอยหรืออะไรทั้งสองฝั่ง เราไม่อยากใช้คำนี้ ใช้คำว่าปรับกำลัง อย่างที่คุยกันแล้วเราปรับกำลังทั้งคู่ เพื่อเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝั่ง ไม่ใช่แค่กัมพูชาอย่างเดียว แต่ของเราด้วย ของเราก็ปรับกำลังเช่นกัน ในการที่พร้อมรับมือ เราก็พร้อมเช่นกัน ไม่ว่าปะทะแบบไหนเราเตรียมความพร้อมไว้ก่อน อย่างที่บอกไว้ว่าเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เพราะมันมีเหตุการณ์ เราก็เตรียมความพร้อมเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้ทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ได้เห็นหนังสือหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือแต่ทราบว่ามีการมายื่นหนังสือ แน่นอนว่าทุกความคิดเห็นรัฐบาลก็รับฟังอยู่แล้ว สิ่งที่เราได้ทำอยู่ทางกองทัพได้วางกำลังและมีหน่วยในการดูแลอยู่แล้วด้วย แต่ว่าก็รับฟังทุกข้อเสนอ

เมื่อถามว่า สิ่งที่รัฐบาลทำไป หนึ่งในนั้นคือการไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก แต่ข้อเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาหรือไม่ เพราะจะมีปัญหากระทบกระทั่งกัน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอสื่อสารแบบนี้ว่าขอพิจารณาเป็นเรื่องต่อเรื่องไป เหมือนที่เรายืนยันกับกัมพูชาว่าเราขอโฟกัสที่เรื่องข้อพิพาทตรงนี้ ไม่ใช่เอาทุกเรื่องมาปนกันหมด ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ชัดเจนในแต่ละหัวข้อ แต่แน่นอนว่าเรื่องที่มีปัญหาหรือว่ายังไม่จบ ทางฝ่ายบริหารก็ต้องพิจารณาดูแลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จะแก้ทีละปม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ใช่ แก้ทีละปม

เมื่อถามว่า จุดหมายหลักของการคุยกับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เขามีท่าทีอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทั้งสองประเทศต้องการสันติวิธี ถามย้ำว่าเขามีท่าทีอย่างไร มีไม้เด็ดอะไร ก็ตอบว่า ก็คุยกันตามความจริงใจ ว่าเรามีความจริงใจแบบนี้ และเราไม่ต้องการเห็นคนทั้งสองประเทศมีปัญหากัน เราต้องการความสงบ และถึงเวลาที่เราไดร์ฟ (ขับเคลื่อน) เราเร่งเครื่องในเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า ไม่อยากให้มันต้องเป็นสนามรบหรืออะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น