เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราอาณาจักร ณ ขณะนั้น ขู่ตัดเงินสนับสนุนศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) และถอนสหราชอาณาจักออกจากสนธิสัญญาก่อตั้งศาลแห่งนี้ หากว่า คาริม ข่าน อัยการสูงสุดของไอซีซี หาทางออกหมายจับพวกผู้นำอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว ตามคำกล่าวอ้างของสำนักข่าวมิดเดิลอีสต์อาย(เอ็มอีอี) ที่รายงานในวันจันทร์(9มิ.ย.)
ศาลอาญาระหว่างประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ออกหมายจับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ณ ขณะนั้น เช่นเดียวกับแกนนำฮามาส 3 คน ตามคำกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในกาซา นับตั้งแต่นั้นวอชิงตันกำหนดมาตรการเล่นงานข่าน กล่าวหาเขาใช้อำนาจโดยมิชอบ จากการไล่ล่าพันธมิตรของอเมริกา
อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศได้ติดต่อไปยังสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน แจ้งเกี่ยวกับความตั้งใจของเขา สำนักข่าวมิดเดิลอีสต์อาย รายงานในวันจันทร์(9มิ.ย.) อ้างอิงพวกเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดกับการพูดคุย
รายงานข่าวระบุว่า คาเมรอน ซึ่ง ณ ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับข่าน และเตือนเขาไปว่าการหาทางออกหมายจับ "จะเหมือนกับการหย่อนระเบิดไฮโดรเจน" เขาขู่ว่าลอนดอน "จะถอนเงินสนับสนุนศาลแห่งนี้และถอนตัวจากธรรมนูญกรุงโรม หากว่าศาลอาญาระหว่างประเทศเดินหน้าออกหมายจับ
มีคำกล่าวอ้างว่า คาเมรอน ออกอาการก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่พูดคุยทางโทรศัพท์กัน ตะโกนใส่ ข่าน ซ้ำๆ จนทำให้อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศรายนี้ จำเป็นต้องขอให้เขาจบประเด็นนี้
รายงานข่าวระบุ อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ โต้แย้งว่าถ้าสหราชอาณาจักร ตัดสินใจถอนตัวสืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าว "เมื่อนั้นเราคงต้องยอมรับว่าระบบที่อยู่บนพื้นฐานของกติกาอาจถึงคราวดับสูญ" พร้อมเน้นย้ำว่า "มีความเสี่ยงร้ายแรงที่ผู้คนจะมองว่ามาตรฐานไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเท่าเทียม"
อย่างไรก็ตามจากนั้นไม่ถึงเดือน ข่าน แถลงว่าเขาจะเดินหน้าขอออกหมายจับพวกผู้นำอิสราเอลต่อไป กระตุ้นให้ คาเมรอน ออกมาโวยวายศาลอาญาระหว่างประเทศต่อหน้าสาธารณะ อ้างมันเท่ากับว่าไอซีซีมองเนทันยาฮูและฮามาส มีความเท่าเทียมกันในด้านศีลธรรม
เมื่อเดือนที่แล้ว อิสราเอลเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศถอนหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนท์ ทั้งนี้ อิสราเอล เช่นเดียวกับสหรัฐฯ รัสเซียและจีน พวกเขาไม่ได้รับรองขอบเขตอำนาจศาล ไม่ได้ลงนามในรัฐธรรมนูญกรุงโรม
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)