xs
xsm
sm
md
lg

ภูมิธรรมรีบเคลม เขมรหงอไทยถอยทัพช่องบก อ้างคุย "ตระกูลฮุนฯ" ทำคลี่คลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม อ้างสถานการณ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น หลังทหารกัมพูชาถอยออกจากช่องบก เพราะตนและนายกฯ แพทองธารคุยกับ "ตระกูลฮุนฯ" ช่วงสุดสัปดาห์ อ้างไม่อยากเสียเลือดเนิ้อ ก่อนให้รองแม่ทัพภาคที่ 2 ไปจุดปะทะ ย้ำประชุม JBC วาระเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กรณีปราสาทต่างๆ ยังไม่อยากคุยแต่พร้อมรับฟัง

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาถอยกำลังจากช่องบก กลับไปอยู่จุดเดิม และปิดกลบคูเลตตามคำเรียกร้องของฝ่ายไทย ว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความสำเร็จ มีการพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แม่ทัพภาคที่ 2 มีการประสานงานกันตลอด กระทั่งเวลา 11.00 น. เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานองคมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา อยากหาข้อสรุปที่เป็นสันติ คิดว่าการเกิดสงครามไม่มีประโยชน์ ตนจึงกล่าวว่า การสั่งให้ทหารรบกันมันเร็วและมันง่าย แต่ความสูญเสียเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรให้ยุติโดยไม่มีความสูญเสีย

โดยเมื่อวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คุยกับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่วนตนคุยกับ พล.อ.เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา ข้อสรุปขั้นต้นและพยายามคุยกันต่อ แต่ตอนที่ตนกลับจากการพูดคุยครั้งแรก มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเหมือนยังไม่ยุติ จึงคุยกันใหม่ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไป ทางกัมพูชายินยอมที่จะหาทางออกร่วมกัน หลังจากนั้นกองทัพกัมพูชาได้ประสานผ่านทางทูตทหารให้ลงไปสำรวจพื้นที่ด้วยกัน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า โดยเฉพาะจุดที่ปะทะกัน จึงได้ส่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 ไปเพราะคุ้นเคยกับพื้นที่ จึงออกมาในสถานการณ์ที่ดี

"ข้อตกลงที่เราขอคือ หลังจากนี้อยากให้ทั้งสองฝ่ายเดินสำรวจพื้นที่ด้วยกัน ให้เป็นเหมือนเดิมที่เคยทำ ให้กลบคูเลต และปรับกำลังไปเหมือนในปี 2567 ซึ่งอยากให้ยึดถือ เพราะเป็นช่องทางที่ทำให้มันยุติได้อย่างสงบ ปรับกำลังกันไป เขาอยู่ในจุดเดิมของเขา เราอยู่ในจุดเดิมของเรา ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการยุติการเผชิญหน้าที่เป็นข้อแรกสุดที่เราอยากได้ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง ขณะนี้ถือว่าอยู่ในจุดที่ยุติเรียบร้อยแล้ว" นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 ซึ่งยังเป็นวาระเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง ข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาจะคุยในเชิงเทคนิค แต่เราอยากให้เคลียร์ให้ชัดเจนว่าเส้นแดนจะประคองกันไปอย่างไร จนกว่ามีข้อตัดสิน คิดหาประเด็นในการที่จะตัดสิน หรือเงื่อนไขอะไรในการตัดสินใจ คงจะจำกัดอยู่แค่นี้ ส่วนกรณีปราสาทต่างๆ ยืนยันว่ายังไม่อยากพูดคุยในรอบนี้ หากหยิบขึ้นมาก็พร้อมรับฟัง ต้องดูว่าจะคลี่คลายไปอย่างไร

ขณะที่การปิดด่านต่างๆ มติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ให้หน้างานประเมินตามความเป็นจริง โดยได้คุยกับ ผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 1 และกองกำลังจันทบุรีแล้วว่าจะค่อยๆ ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพราะไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อ ชีวิตประชาชนชายแดนทั้งสองฝ่าย และทหารแนวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เราอยากแก้ปัญหาแต่ไม่อยากใช้ความรุนแรง ความอดทนอดกลั้นครั้งนี้ต้องขอบคุณกองทัพที่เข้าใจมาโดยตลอด และประสานงานในการช่วยแก้ไขปัญหาจนกระทั่งสำเร็จ

พร้อมกันนี้ ได้ให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นคนประสานงานกับเหล่าทัพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีความผูกพันกันกับกองทัพ ส่วนตนได้คุยเฉพาะเรื่องสำคัญ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้แจ้งมาเพื่อจะได้แก้ปัญหา ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ขอบคุณประชาชนทั้งสองประเทศที่อดทนอดกลั้น แม้จะมีอารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ทำให้คลี่คลาย จบลงด้วยดี ขอบคุณทหารทุกฝ่ายที่ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงไป จากนี้ไปคงต้องกำหนดการคลี่คลายในเรื่องเขตแดนกับทางกัมพูชา และต้องวางมาตรการในระยะยาวต่อไป ซึ่งต้องรอการคลี่คลายต่างๆ อีกระยะหนึ่ง

โดยเมื่อเช้าได้คุยกับ พล.อ.ณัฐพล ให้ดูเรื่องความจำเป็นในการจะจัดการเรื่องด่านอย่างไร เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ปิดแค่จำกัดเวลา ยังไม่กระทบการค้า อยู่ในมาตราการ Seal Stop Safe ตอนนี้ไม่มีปัญหา คิดว่าทุกอย่างจะคลี่คลายได้ดี ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย. 2568 ได้รายงานนายกรัฐมนตรีตลอด รวมถึงประสานกับ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 ตลอดเวลา

เมื่อถามว่าความสำเร็จเกิดจากมาตรการจำกัดเวลาปิดด่านหรือไม่ นายภูมิธรรม มองว่ามีหลายมาตรการ แต่สิ่งสำคัญคือการประสานงานที่คุยกับ พล.อ.ฮุน มาเนต และสมเด็จฯ ฮุน เซน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คลี่คลายลง หลังจากท่าทีทั้งสองมีความเข้าใจมากขึ้น กระบวนการจากกองทัพกัมพูชาจึงได้เกิดขึ้น และมาตรการที่เราทำอาจจะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้การพูดคุยมันเกิดเป็นข้อสรุปได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามว่า การตรึงกำลังของฝ่ายกัมพูชาตามแนวชายแดนจะลดจำนวนลงด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม เผยว่า หลังจากนี้จะรอดู เชื่อว่ามันจะค่อยๆ คลี่คลาย ความที่มันตึงแล้วจะปลดทันทีก็คงไม่ถูกในวิสัย ตอนนี้ค่อยๆ ลดจุดเผชิญหน้า ขยับปรับกำลังกันไปแล้ว ส่วนอื่นๆ มันตรึงกำลังจริง แต่ยังไม่มีลักษณะในการปะทะที่ตรึงเครียดจริงอยู่แถวช่องบก สามเหลี่ยมมรกต ต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งตรงนี้คลี่คลายลงแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น