ค่ายน้ำเงินทันกระแส "อนุทิน" ลุยชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหาร-ชาวบ้าน พร้อมตรวจหลุมหลบภัย ด้าน ส.ว.จี้เปิดสภาวิสามัญ ถกปัญหาชายแดน
ถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาจะคลี่คลายลงด้วยการเจรจาหาข้อสรุปได้ทุกฝ่าย แต่พอมองกับมายังประเทศไทยแล้วมีประเด็นที่น่าสนใจพอสมควรการออกมาขยับตัวพร้อมกันของค่ายสีน้ำเงินทั้งพรรคภูมิใจไทยและวุฒิสภา
โดยบ้านใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน 'อนุทิน ชาญวีรกูล' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
จุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมอบสิ่งของให้ทหารแนวหน้า และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน กองอาสารักษาดินแดน และหน่วยงานฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นจะไปยังหลุมหลบภัยโรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้นั่งตากฝนตั้งวงกินข้าวกล่องกับชาวบ้านช่วงกลางวัน ที่วัดบ้านค้อ ต.โดมประดิษฐ์ และตรวจดูความพร้อมของบังเกอร์หลบภัย และเข้าไปนั่งในหลุมหลบภัยด้วย จากนั้นนายอนุทินได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม ร่วมการซ้อมเสมือนจริงของนักเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เมื่อเปิดเสียงสัญญาณเตือนภัยเด็กๆ จะวิ่งเข้าหลุมหลบภัย พร้อมกับคุณครู และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่คอยดูแลความเรียบร้อย
“เชื่อมั่นว่าทหารของเราจะปกป้องดูแลอธิปไตยของไทยได้อย่างเต็มที่ เราต้องรวมกำลังใจส่งไปยังพี่น้องทหารหาญของเรา ที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดน รับรองว่าจะไม่ให้รุกรานเข้ามา อย่าว่าแต่ตารางนิ้วเดียวเลย มิลเดียวก็เข้ามาไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว
ขณะที่ วุฒิสภา ได้ออกแถลงการณ์วุฒิสภา ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีสาระสำคัญดังนี้
"ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 122 ประกอบมาตรา 175 เพื่อที่คณะรัฐมนตรีจะได้ดำเนินการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานรัฐสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา...”
"ทั้งนี้ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทยกับกัมพูชาต่อประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งสาเหตุของปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องกระทำอย่างเร่งด่วน"