สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครต กล่าวโทษกันไปมาเมื่อวันอาทิตย์(8มิ.ย.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าประจำการในลองแองเจลิส ท่ามกลางการประท้วงใหญ่ต่อต้านการยกระดับจู่โจมจับกุมผู้อพยพ
"สิ่งสำคัญที่ต้องพึงระลึกคือ ทรัมป์ ไม่พยายามเยียวยาหรือรักษาสันติภาพ เขากำลังหาทางโหมกระพือความขุ่นแค้นและความแตกแยก" คริส เมอร์ฟีย์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าว ในขณะที่เขาเป็นบุคคลหนึ่งที่ส่งเสียงด่าทอกล่าวโทษประธานาธิบดีสหรัฐฯโดยตรงที่สุด "ความเคลื่อนไหวของเขาไม่เชื่อในประชาธิปไตยหรือกาประท้วง และถ้าพวกเขาได้โอกาสจบสิ้นหลักนิติรัฐเมื่อไหร่ พวกเขาจะทำมันทันที"
คอรี บูเคอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตอีกคน ประณาม ทรัมป์ สำหรับประจำการทางทหารทั้งที่ไม่ได้รับอนุมัติจากแคลิฟอร์เนีย เตือนว่ามันรังแต่จะทำให้ความตึงเครียดลุกลามบานปลาย โดยในรายการ "มีท เดอะ เพรส" ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เขากล่าวหา ทรัมป์ หน้าซื่อใจคดและเน้นว่าผู้นำรายนี้นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยตอนที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ครั้งที่พวกผู้สนับสนุนทรัมป์หลยพันคนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ แถมต่อมาเขายังนิรโทษกรรมให้กับพวกที่ถูกจับกุมด้วย
ในวันอาทิตย์(8มิ.ย.) ภาพในวิดีโอพบเห็นยานยนต์ทหารหลายสิบคันและโล่ปราบจลาจล ณ อาคารรัฐบาลกลาง ในลอสแองเจลิส ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรัฐบาลกลาง ยิงกระป๋องแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงต่อต้านการปราบปรามผู้อพยพของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ
กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และ ทรัมป์ มีจุดยืนที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการประท้วง โดย นิวซัม ประณามแนวทางตอบสนองของรัฐบาลกลางว่าเลยเถิดเกินไป และบอกว่า ทรัมป์ ต้องการดึงดูดความสนใจ ส่วนทางประธานาธิบดีกล่าวหา นิวซัม ล้มเหลวในการรักษาความสงบเรียบร้อย
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรจากรีพับลิกัน ในวันอาทิตย์(8มิ.ย.) ปกป้องการตัดสินใจของทรัมป์ โดยบอกว่าเขาไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการประจำการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ และระบุ "หนึ่งในหลักการสำคัญของเราคือ ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพผ่านความเข้มแข็ง เราทำมันในกิจการต่างประเทศและกิจการภายในประเทศก็เช่นกัน ผมไม่คิดว่ามันเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป"
เจมส์ แลงค์ฟอร์ด อ้างว่า ทรัมป์ พยายามลดความตึงเครียด อ้างถึงเหตุการณ์พวกผู้ประท้วงขว้างปาข้าวของเข้าใส่พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้เขายังย้อนถึงความไม่สงบแบบเดียวกันในปี 2020 ในซีแอตเทิลและปอร์ทแลนด์ ซึ่งกองกำลังพิกษ์มาตุภูมิเข้าสนับสนุนพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น ท่ามกลางการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางเชื้อชาติ
การประท้วงต่อการการจู่โจมจับกุมผู้อพยพ กลายมาเป็นจุดโฟกัสล่าสุดในประด็นโต้เถียงระดับชาติเกี่ยวกับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย สิทธิการประท้วงและการใช้กำลังของรัฐบาลกลางในกิจการภายในประเทศ นอกจากนี้แล้วมันยังกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยกันถึงขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีและสิทธิในการขัดขืนของประชาชน
(ที่มา:รอยเตอร์)