ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันประเทศของเขาได้จัดตั้งกลไกต่างๆอย่างครอบคลุมเพื่อจัดการกับประเด็นพิพาทด้านเขตแดนกับไทย ประกอบด้วยขั้นตอนทางเทคนิค การเจรจาทวิภาคีและช่องทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เน้นย้ำว่ากัมพูชาจะตอบโต้ด้วยกำลังทหารหากไทยเป็นฝ่ายเริ่มบุกรุกด้วยอาวุธ ตามรายงานของเขมรไทม์ส
เขมรไทม์ส รายงานว่าคำพูดดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีขึ้น ณ พิธีเปิดอาคารโรงเรียนและฉลองความสำเร็จในภาคการศึกษาในจังหวัดรัตนคีรี
รายงานของเขมรไทม์ส ระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ให้ข้อมูลโดยสรุปแก่พลเมือง เกี่ยวกับผลลัพธ์การหารือระหว่างเขากับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อศุกร์(6มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งเขาวางกรอบจุดยืน 4 ข้อของกัมพูชาในประเด็นนี้
"ยุทธศาสตร์ของกัมพูชามีพื้นฐานอยู่บน 3 กลไกหลัก ลำดับแรก เราทำตามกรอบการทำงานทางเทคนิค การทำงานผ่านคณะกรรมการเขตแดนทวิภาคี ซึ่งอ้างอิงเอกสารทางกฎหมายและแผนที่ต่างๆที่เห็นพ้องร่วมกัน" นายกรัฐมนตรีรายนี้ย้ำ
ฮุน มาเน็ต เน้นย้ำว่าสำหรับประเด็นชายแดนกัมพูชาและไทย ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันภายใต้บันทึกความเข้าใจปี 2000 (MoU 2000) ที่ใช้แผนที่มาจากสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามปี 1904 และกระบวนการกำหนดเขตแดน 1907
สนธิสัญญาดังกล่าวใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 เป็นพื้นฐานคลี่คลายข้อพิพาทตามแนวชายแดนยาวกว่า 800 กิโลเมตร จากสามเหลี่ยมทองคำไปจนถึงเมืองจามเยี่ยม จังหวัดเกาะกง
"ถ้ากลไกทางเทคนิคล้มเหลว เราจะเห็นไปหาทางเลือกด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ในเบื้องต้น เราพยายามจัดการประเด็นนี้ผ่านเวทีนานาชาติ แต่ถ้าลู่ทางนี้อ่อนแรง เมื่อนั้นเราจะเดินหน้าสู่การระงับข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ" ฮุน มาเน็ต กล่าวต่อ
นอกจากนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ยังปฏิเสธเสียงสิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาในความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัฐบาล โดยอ้างว่าที่กัมพูชากำลังหาทางคลี่คลายประเด็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานในเวลานี้ ก็เพราะไม่อยากปล่อยให้มันเป็นภาระของคนรุ่นหลัง ตามรายงานของเขมรไทม์ส
เขมรไทม์ส รายงานด้วยว่า ในโอกาสนี้ ฮุน มาเน็ต ยังแสดงจุดยืนอีกครั้งว่า ถ้า ไทย ใช้กำลังทหารรุกล้ำเขตแดนของกัมพูชา ทางกัมพูชาจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ
นายกรัฐมนตรีรายนี้ยังเรียกร้องให้พลเมืองกัมพูชาทุกคนอยู่ในความสงบ และหลีกเลี่ยงเผยแพร่วาทกรรมกระตุ้นความโกรธและชาตินิยม ที่อาจโหมกระพือความตึงเครียดหรือยั่วยุความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติ
(ที่มา:เขมรไทม์ส)