รัสเซียโจมตีเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครนในยามค่ำคืนและตอนเย็น ด้วยโดรน ขีปนาวุธและระเบิดนำวิถี สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 4 รายและบาดเจ็บมากกว่า 60 คน ในนั้นรวมถึงทารกรายหนึ่ง จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในวันเสาร์(7มิ.ย.) อีกหนึ่งระลอกการโจมตีที่มีขึ้นหลังจากมอสโกประกาศแก้แค้นกรณียูเครนส่งโดรนเข้ามาทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียหลายลำ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
ปฏิบัติการโจมตีล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ส่งคำเตือนล่วงหน้าผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ว่า มอสโกจำเป็นต้อง "ตอบโต้" กรณียูเครนลักลอบส่งโดรนเข้าไปทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียตามฐานทัพที่อยู่ลึกเข้าไปจากชายแดนหลายพันกิโลเมตร
สำหรับ คาร์คิฟ ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีระลอกล่าสุด เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของยูเครน ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนของรัสเซียไม่กี่สิบกิโลเมตรและถูกรัสเซียยิงถล่มมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระหว่างสงครามที่ลากยาวมานานกว่า 3 ปี
"ปัจจุบันคาร์คิฟกำลังเผชิญกับการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้น" อิฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีของเมืองกล่าวในวันเสาร์(7มิ.ย.) พร้อมเผยว่าได้ยินเสียงระเบิดหลายสิบระลอกภายในเมืองตลอดทั้งคืน และทหารรัสเซียทำการโจมตีอย่างสอดประสานกันด้วยขีปนาวุธ โดรนและระเบิดนำวิถีทางอากาศ
เทเรคอฟ ระบุต่อว่าอาคารหลายชั้น อาคารที่พักอาศัยส่วนบุคคล โครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาและระบบสาธารณูปโภค ถูกโจมตี ทั้งนี้ภาพถ่ายจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและรอยเตอร์ พบเห็นบ้านเรือนและรถยนต์ถูกไฟเผาไหม้ได้รับความเสียหาย และทีมช่วยเหลือกำลังพาผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังสถานที่ปลอดภัย และบางส่วนกำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายเศษซากหักพัง
โอลห์ ซีเนียฮูบอฟ ผู้ว่าการรัฐคาร์คิฟ เผยว่าที่ตั้งทางอุตสาหกรรมพลเรือนแห่งหนึ่งของเมือง ถูกโจมตีด้วยโดรนกว่า 40 ลำ, ขีปนาวุธ 1 ลูกและระเบิด 4 ลูก ก่อให้เกิดไฟลุกไหม้ พร้อมระบุว่ายังมีผู้คนอีกจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากหักพัง
ในช่วงเย็น ฝูงบินของรัสเซียได้ทำการโจมตีคาร์คิฟอีกรอบ ด้วยระเบิดนำวิถี ปฏิบัติการที่ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกมันว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุฆาตกรรมอันโหดเหี้ยม
"มันคือการทำลายเมืองอย่างเหี้ยมโหดตอนกลางวันแสกๆ พวกเขาโจมตีเมืองคาร์คิฟของเรา ตลอดทั้งวัน" เซเลนสกีระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในตอนเย็น "เมื่อคืนนี้ มีการโจมตีด้วยโดรนขนานใหญ่ใส่คาร์คิฟ และตอนนี้มีการทิ้งบอมบ์ทางอากาศ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา"
กองทัพยูเครนเผยว่ารัสเซียยิงโดรน 206 ลำ ขีปนาวุธแบบทิ้งตัว 2 ลูกและขีปนาวุธอื่นๆอีก 7 ลูก เข้าใส่ยูเครน เมื่อค่ำคืนก่อนหน้านี้
ถ้อยแถลงของกองทัพยูเครนระบุว่าหน่วยป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขา สามารถสอยร่วงโดรน 87 ลำและก่อความสูญเสียอีก 80 ลำ อ้างถึงกรณีที่ทหารยูเครนใช้การทำสงครามอิเล็กทรอนิกเปลี่ยนเส้นทางของโดรนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามพวกเขายอมรับว่ามีอยู่ 10 ตำแหน่งที่ถูกโจมตี
ขณะเดียวกัน ยูเครนในวันเสาร์(7มิ.ย.) ปฏิเสธคำกล่าวหาของรัสเซีย ที่อ้างว่าเคียฟเป็นฝ่ายเลื่อนการแลกเปลี่ยนเชลยศึกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมกล่าวหามอสโกกลับว่า "กำลังเล่นเกมสกปรก" เนื่องจากอีกหนึ่งเมื่อค่ำคืนก่อนหน้านี้ รัสเซียยังคงเดินหน้าทั้งยิงขีปนาวุธและโจมตีด้วยระเบิดเล่นงานเมืองคาร์คิฟ
ในการเจรจาสันติภาพรอบ 2 ในอิสตันบูล เมื่อวันจันทร์(2มิ.ย.) ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องแลกเปลี่ยนเชลยศึกเพิ่มเติม และส่งกลับศพนายทหารที่เสียชีวิต 12,000 ราย อย่างไรก็ตามทางผู้ช่วยรายหนึ่งของวังเครมลิน เปิดเผยในวันเสาร์(7มิ.ย.) เคียฟ ทำการเลื่อนการแลกเปลี่ยนออกไปอย่างไม่คาดคิดและไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ออกมาปฏิเสธคำกล่าวหานี้ พร้อมบอกว่า "รัสเซียควรหยุดเล่นเกมสกปรก" แล้วหันมาทำงายอย่างสร้างสรรค์จะดีกว่า
(ที่มา:รอยเตอร์)