ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์(7มิ.ย.) ยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ผู้บริจาครายใหญ่ จบลงแล้ว และเตือนถึงผลสนองร้ายแรง หากว่า มัสก์ หันไปให้เงินทุนสนับสนุนเดโมแครต ต่อกรกับรีพับลิกัน ที่โหวตหนุนหลังร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายของเขา
ระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ในวันเสาร์(7เม.ย.) ทรัมป์ปฏิเสธที่จะพูดอย่างแน่ชัดว่าผลสนองนั้นคืออะไร และกล่าวต่อว่าเขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ในกรณีที่ว่าจะมีการสืบสวน มัสก์ หรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามทรัมป์ คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์จบลงแล้วหรือไม่ ประธานาธิบดีรายนี้ตอบว่า "ผมคิดว่ามันเช่นนั่้น ใช่" และพอถูกถามต่อว่าเขามีความปรารถนาซ่อมแซมความสัมพันธ์กับมัสก์หรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ไม่ ผมไม่มีความตั้งใจจะพูดกับเขา"
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เผยว่าเขายังไม่คิดถึงเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯจะยกเลิกสัญญาต่างๆที่ทำไว้กับ "สตาร์ลิงค์" อินเตอร์เน็ตดาวเทียม และ "สเปซเอ็กซ์" บริษัทยิงจรวดของมัสก์
มัสก์ และ ทรัมป์ เริ่มเปิดศึกสงครามน้ำลายในสัปดาห์นี้ หลังจาก มัสก์ ตำหนิร่างกฎหมายของทรัมป์ ว่าเป็น "สิ่งที่น่ารังเกียจ" ในขณะที่เสียงคัดค้านของมัสก์ต่อร่างกฎหมายนี้ จะก่อปัญหาแทรกซ้อนในความพยายามผลักดันมันผ่านความเห็นชอบในสภาคองเกรส เนื่องจากรีพับลิกันครองเสียงข้างมากแบบฉิวเฉียดในทั้งสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา
ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฏรแบบหวุดหวิดเมื่อเดือนที่แล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจากรีพับลิกัน พรรคเดียวกับทรัมป์ กำลังทบทวนแก้ไขต่างๆนานา ในขณะที่พวกนักวิเคราะห์ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ประเมินว่ารางกฎหมายของทรัมป์ จะก่อหนี้สาธารณะแก่สหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 2.4 ล้านล้านในช่วง 10 ปีข้างหน้า สู่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมันโหมกระพือความกังวลแก่สมาชิกสภาคองเกรสหลายคน ในนั้นรวมถึงพวกสายเหยี่ยวด้านการเงินของรีพับลิกัน
ทั้งนี้ มัสก์ ยังประกาศว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการมีพรรคการเมืองใหม่ในสหรัฐฯ ที่เป็นตัวแทน 80% ของคนชั้นกลาง"
อย่างไรก็ตามในความเคลื่อนไหวล่าสุด มัสก์ ลบข้อความบางส่วนที่โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์บนสื่อสังคมออนไลน์ ในนั้นรวมข้อความที่ส่งสัญญาณว่าเขาสนับสนุนการถอดถอนประธานาธิบดีรายนี้ ดูเหมือนเป็นความพยายามลดความตึงเครียดในศึกวิวาทะระหว่างกัน
ทำเนียบขาวและมัสก์ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในวันเสาร์(7มิ.ย.) ต่อกรณีการลบโพสต์ดังกล่าว แต่ผู้คนที่ได้พุดคุยกับมัสก์ เผยว่าความโกรธของซีอีโอเทสลาเริ่มลดลงแล้ว และคิดว่าเขาคงอยากต้องการซ่อมแซมความสัมพันธ์กับทรัมป์
มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนรายใหญ่ของทรัมป์ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 เขาใช้จ่ายเงินไปเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว และได้รับเครดิตเป็นอย่างสูง ในการช่วยรีพับลิกันรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร และทวงคืนเสียงข้างมากในวุฒิสภามาจากเดโมแครต
ทรัมป์ แต่งตั้ง มัสก์ ให้เป็นแกนนำในความพยายามลดขนาดพนักงานรัฐและปรับลดการใช้จ่าย และเพิ่งชมเชยเขาที่ทำเนียบขาวเมื่อราวๆ 1 สัปดาห์ก่อน ต่อการทำหน้าที่ในฐานะผู้นำกระทวงประสิทธิภาพรัฐบาล แม้ มัสก์ ปรับลดการใช้จ่ายโดยรวมได้แค่ 1% ห่างจากอย่างมากจากแผนปรับลดการใช้จ่ายในงบประมาณรัฐบาลกลาง 2 ล้านล้านดอลลาร์
(ที่มา:รอยเตอร์)