นครพนม-จับได้แล้ว “ปิยะนันท์” หัวโจกค้ายาบ้ารายใหญ่ หลังหนีหมายจับไปกบดานที่สปป.ลาว ล่าสุดทางการลาวจับตัวพร้อมส่งตัวให้ป.ป.ส.มาดำเนินคดี เผยเป็นผู้สั่งการ มีส่วนแบ่ง 5-10% ของปริมาณซื้อขายยาเสพติดทั้งหมด
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด, นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ปส.2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และคณะ เดินทางไปรับส่งมอบตัว นายปิยะนันท์ บุญพันธ์ อายุ 37 ปี ชาวอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร นักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่หลบหนีหมายจับไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว
พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า ป.ป.ส. ติดตามพฤติกรรมของนายปิยะนันท์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ซึ่งพบว่านายปิยะนันท์ มีหน้าที่เป็นผู้จัดหาและติดต่อประสานงานระหว่างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไทย และสปป.ลาว โดยใช้ สปป.ลาว เป็นทางผ่านลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศไทย โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ บช.ปส. ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายปิยะนันท์ ในข้อหา
“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” ในคดีเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 7,970,000 เม็ด ได้ที่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 เส้นทางบุรีรัมย์ - นครราชสีมา หมู่ที่ 7 บ้านหนองนกกวัก ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา
การจับกุมนายปิยะนันท์ ตามหมายจับคดียาเสพติดดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทในฐานะผู้สั่งการ มีส่วนแบ่งการตลาดในการซื้อขายยาบ้าสูงถึง 5-10% ของปริมาณยาเสพติดทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหลังจากถูกออกหมายจับของทางการไทย นายปิยะนันท์ ได้หลบหนีไปอยู่ใน สปป.ลาว และผันตัวเองเป็นผู้ประสานงานการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ จัดส่งยาเสพติด
โดยเฉพาะยาบ้าลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจำนวนมาก ซึ่งการติดตามจับกุมตัว ต้องอาศัยความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสปป.ลาว ในการช่วยเหลือติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวไทย ที่ลักลอบหลบหนีเข้าไปอยู่ใน สปป.ลาว
ทั้งนี้นายปิยะนันท์ เป็นผู้ต้องหาหลบหนีของทางการไทย 1 ใน 21 คน ตามโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสติดรายสำคัญตามหมายจับประจำปี 2568 ที่ทางการไทยได้ขอให้ สปป.ลาว ช่วยติดตามจับกุม ผลักดันส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในการประชุมทวิภาคีไทย - ลาว ระดับรัฐมนตรี เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 23 – 26 ธันวาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
การจับกุมตัวนายปิยะนันท์ ในครั้งนี้จะส่งผลให้ปริมาณยาบ้าที่ลักลอบนำเข้าประเทศไทย ทางพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง 5-10 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของสำนักงาน ป.ป.ส. ติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายของนายปิยะนันท์ ที่เหลือ เพื่อกวาดล้างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญนี้ให้หมดสิ้นไป