xs
xsm
sm
md
lg

“ภูมิธรรม” ชี้ปมชายแดนขอโฟกัสสามเหลี่ยมมรกต อย่าตามเกมกัมพูชาพยายามขยายวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ภูมิธรรม” ชี้ ปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ขอโฟกัสจุดสามเหลี่ยมมรกตก่อน เรื่องอื่นเราไม่เอ่ยถึง เพราะยังไม่รุนแรง แต่เขาพยายามขยายวง อย่าไปตามเกมเขา ส่วนทหารเขมรยังล้ำแดน 200 เมตร จะคุยใน JBC 14 มิ.ย.นี้ ยันรัฐบาลเตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งทางกฎหมายและการใช้กำลังทหารหากจำเป็น ขออย่าปลุกปั่นเอามัน จะบอกว่ารัฐบาลใจเย็นก็ได้ อย่าไปอยากรู้มาก เดี๋ยวจะยุ่งยากในการเจรจา ส่วนประเด็นศาลโลกมีมติ ครม.ยุค “เศรษฐา” ชัดเจนแล้ว เราไม่ยอมรับขอบเขตอำนาจศาลโลกทุกเรื่อง ซัดข่าว รมว.กห.กัมพูชาล็อบบี้ไม่ให้ปิดด่านเลอะเทอะ ยอมรับคุยกัน แต่ไม่คุยเรื่องปิดด่าน

วันนี้ (4 มิ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลออกแถลงการณ์การแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยยึด 3 กลไก จะสามารถตัดเรื่องการนำไปสู่ศาลโลกได้หรือไม่ ว่า แถลงการณ์นั้นเป็นการหารือร่วมกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองทัพบก (ทบ.) กระทรวงต่างประเทศ สิ่งที่แถลงคือ จุดยืนของรัฐบาล โดยอยากให้ประชาชนไปดูและศึกษา ซึ่งในแถลงมีเรื่องของการจุดยืนอธิปไตยของประเทศ ยึดมั่นในบูรณภาพเหนือดินแดนไทย รวมถึงสิทธิทางกฎหมายของไทย และแก้ไขปัญหาโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลดำเนินการไปตามขั้นตอน และข้อเท็จจริงที่รับรู้ เราไม่ได้ทำตามอารมณ์ หรือความต้องการของใคร แต่ดำเนินการภายใต้การปกป้องของอธิปไตย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในบางเรื่องเราไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเขาพยายามขยายวงไปถึงศาลโลก เราพยายามจะจำกัดวงไม่ให้ไปถึงจุดนั้น เราจะพูดเฉพาะจุดปะทะ และยึด MoU 43 เนื่องจากง่ายในการหาข้อสรุปร่วมกันได้ ขณะนี้สิ่งที่เกิดปัญหาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ต้นสันปันน้ำ ถึงสามแยกลาว เรากลับมาดูตรงนี้ ส่วนพื้นที่อื่น ยังไม่มีอะไรรุนแรง เราอย่าไปเล่นเกมตามเขา เพราะจะกลายเป็นประเด็นที่นานาชาติเข้ามา และเรามั่นใจในจุดยืนของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของชาติ ซึ่งจะกระทบกับเอกราชและดินแดนของประเทศไทย ไม่อยากให้ขยายวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลพยายามจำกัดวงปมความขัดแย้ง เนื่องจากมีเรื่องที่จะต้องไปเจรจาต่อรอง รวมถึงเรื่องทางเทคนิค ซึ่งสิ่งที่เราได้พูดคุยกับทางกัมพูชา และ นายกฯ ไทยได้คุยกับนายกฯ กัมพูชา ตนก็พูดคุยกับรองนายกฯ กัมพูชา ทุกฝ่ายยอมรับแล้วว่าในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เขตแดนไทย - กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เราควรจะคิดไปทีละขั้น หากการประชุมในครั้งนี้หาข้อยุติไม่ได้ ก็ต้องดูว่ามีกลไกอะไรอีก

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมการทั้งหมดไว้แล้ว ในการต่อสู้ในแง่ของกฎหมาย การเจรจาร่วมตามกลไกต่าง ๆ และหากมีความจำเป็น ทหารเตรียมการในแนวหน้าไว้หมดแล้ว ไม่อยากให้มีการปลุกปั่นหรือตำหนิกัน ซึ่งวันนี้แกนนำฝ่ายค้านก็มีโทนเสียงที่ดีขึ้น ไม่ใช่พูดตามอารมณ์และเอามัน เพราะเรื่องนี้ผิดพลาดนิดเดียว เสียหายใหญ่หลวง เราอยากได้เสียงสนับสนุนจากประชาชน เหมือนจากที่ประเทศกัมพูชาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชนของประเทศเขาเอง อยากให้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มานั่งตำหนิรัฐบาล

ในขณะเดียวกัน การปิดด่านก็มีกระบวนการขั้นตอน ไม่ใช่ปิดไปทั่ว เรามีวิธีที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ไม่อยากจะไปพูดว่าเราดำเนินการในขั้นตอนไหนบ้าง เพราะไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ อย่าไปอยากรู้มาก เพราะการเปิดเผยมากเกินไปก็จะสร้างความยุ่งยากในการเจรจา

เมื่อถามว่า กระแสประชาชนไม่พอใจกับท่าทีของนายกฯ และนายภูมิธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราอยากลดความขัดแย้งไม่อยากยกระดับไปสู่ปัญหาระดับโลก ไม่เช่นนั้น จะเป็นปัญหาอีกมากมาย จะเรียกว่าเราใจเย็นก็ได้ เขากำลังร้อน เราก็เอาน้ำเย็นลูบ หากมองว่าเราไม่แสดงท่าทีก็พูดได้ แต่ในทางปฏิบัติได้เตรียมไว้หมดแล้ว


นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีความเข้าใจอันดีกับกองทัพ รวมถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้คุยกันตลอด ไม่มีอะไรเลยที่เป็นปัญหา วันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลจะมาโต้แย้งกัน เรามีจุดยืนว่าจะเจรจาเรื่องสันติ หากอนาคตจะนำไปสู่ความรุนแรง บรรทัดสุดท้าย เราก็มีความพร้อมหมด

เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเตรียมไว้ ไม่มีประเด็นเรื่องของการนำไปสู่ศาลโลกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่มีมติ ครม. 12 มี.ค. 2567 โดยยืนยันว่ามีหนังสือลงวันที่ 19 มี.ค. 2567 แจ้งให้หน่วยราชการทุกหน่วยทราบและให้ถือเป็นข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ว่าในการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศใดๆ ให้ทำข้อกำหนดไว้ว่า “ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ศาลโลกในทุกเรื่อง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ” มันชัดเจนอยู่แล้ว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องถามเลยประเด็นนี้ ไม่อยากนำเรื่องนี้มาพูดให้มันกระจายไป ในขณะที่ประชาชนก็พยายามทำความเข้าใจ ในโซเชียลมีเดีย ที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของประชาชน เชื่อว่า มีการทำ IO ขึ้นมา พร้อมทั้งยืนยันว่าในชีวิตนี้ตนไม่เคยเจอกับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา หลังจากที่ AI ทำรูปสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ลูบหัวตน

ส่วนกรณีมีข่าวนายภูมิธรรมจะปลดแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่รู้ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน นี่คือ การปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความระแวงแทงใจ ขอย้ำว่า เรื่องนี้สำคัญและจะกระทบกับเอกราชอธิปไตย ถ้าเราเดินไม่ดี เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเพราะเห็นแก่ประชาชนตามแนวชายแดน รวมถึงทหารที่ดูแลปกป้องอธิปไตย ซึ่งทหารไม่กลัวเพราะพร้อมรบตลอดเวลาอยู่แล้ว ทุกอย่างที่ได้วางไว้มีไทม์ไลน์ไว้ทั้งหมด ถ้าจะต่อสู้ทหารของชาติพร้อมอยู่แล้ว วันนี้ทำหน้าที่อย่างดี ยอมรับว่าคนของเราก็มีความอึดอัดในสถานการณ์ดังกล่าว แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรคือการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาของชาติได้มากที่สุด อยากให้เข้าใจสิ่งนี้และให้อยากช่วยรัฐบาลด้วย

ส่วนที่มีการพบระเบิดในชายแดนไทย-กัมพูชานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าจริงหรือไม่ ยังไม่ได้รับรายงาน โซเชียลฯ
รู้ก่อน ตนซึ่งขอให้รอทางฝ่ายปฏิบัติ บางครั้งข้อมูลในโซเชียลมีเดีย มีทั้งจริงและไม่จริง

เมื่อถามว่า แต่มีข้อมูลชัดเจนว่าทหารกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย 200 เมตร เป็นที่มาของการเสนอปิดด่าน เพื่อกดดันให้ออกจากจุดนั้น แต่มีการสั่งให้ชะลอการปิดด่านเอาไว้ก่อน ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาไปแล้ว นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ด่านต่างๆ ยังไม่ได้ได้รับผลกระทบอะไร และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก

ส่วนทหารพยายามเสนอปิดด่าน เพื่อไปกดดันให้ทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจาก 200 เมตร นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้มีกระบวนการอยู่แล้ว ขอให้เราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำอีกว่า ในจุดนั้นทหารกัมพูชาเพิ่งล่วงล้ำมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเอาหลักฐานทางอากาศมาชี้แจงกันซึ่งจะตอบโจทย์ทุกอย่าง อยากให้รอ

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาย้ำออกมาได้มีการได้เปรียบไทยแล้ว ทางทหารจึงได้ขอให้นายภูมิธรรม ปิดด่านเพื่อกดดัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากให้ใจเย็น ล้ำหรือไม่ล้ำ มันมีแผนที่อ้างสิทธิในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างประกาศอาณาเขต ซึ่งฝ่ายไหนเป็นคนละเมิดกลไกใน MOU 43 จะดำเนินการเอง ซึ่งในแนวหน้ายังไม่ไปสู่จุดที่ปะทะกัน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันกับตน เราอยู่ในจุดที่เขาล้ำเข้ามาในไทยไม่ได้เด็ดขาด แต่จุดที่เป็นปัญหาอยู่เป็นจุดที่อยู่ในจุดที่อ้างสิทธิกัน

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งว่าอย่างไรในเรื่องของการติดตาม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาไม่ได้แจ้งว่าจะขอปิดด่าน เขาแจ้งว่า หากถึงจุดหนึ่งก็จะขอปิดด่าน ซึ่งตนก็บอกว่าปิดได้อยู่แล้ว แต่มองว่าในขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะไปถึงจุดนั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะปิดด่าน ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์แต่ละวัน

เมื่อถามย้ำว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่ากัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย 200 เมตรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้ไปดูในเวที JBC

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าว พล.อ.เตีย เซรย ฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้โทรศัพท์มาหาเพื่อให้ปิดด่าน นายภูมิธรรม กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า อันนี้เลอะเทอะ แต่ยอมรับว่าได้โทร.คุยกันจริง แต่ไม่ได้คุยกันมาก คุยเฉพาะบางส่วนที่เกี่ยวข้อง ในฐานะผู้นำระดับสูงของกัมพูชา ประเด็นสำคัญคือการอยากให้ใช้กลไก JBC และไม่ให้เกิดความรุนแรง อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกออกจากกัน เรายังไม่เคยพูดเรื่องปิดด่านเลย และมีการต่อรองให้มีการจัดประชุม JBC ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วนกรณีที่มีกระแสให้เกิดการปฏิวัตินั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เป็นความเห็นของแต่ละคน แต่เชื่อว่า รัฐบาล ทหาร กองทัพคุยกันดีอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น