สระแก้วพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกจากการกินเนื้อควายที่เลี้ยงไว้

สระแก้ว – สระแก้ว พบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรกจากการกินเนื้อควายที่เลี้ยงไว้ซ้ำชำแหละขายให้ชาวบ้านอีกประมาณ 30คน เจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนโรคเร่งลงพื้นที่หาผู้ติดเชื้อเพิ่ม พร้อมสั่งกักควายในคอกเดียว 30 วัน นำรถฉีดพ่นฆ่าเชื้อทุกจุด

จาก​กรณีที่​มีการพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรกใน จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นชายวัย 38 ปี ที่ได้ฆ่าควายที่เลี้ยงไว้และชำแหละเนื้อบริโภค รวมทั้งแบ่งขายให้กับชาวบ้านมากกว่า 50 คนในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ 2568 ที่ผ่านมา กระทั่งชายคนดังกล่าวป่วยและพบว่ามีการติดเชื้อดังกล่าว

ทำให้เจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนโรค ต้องเร่งหาไทม์ไลน์ที่มาของควายที่มีเชื้อแอนแทรกซ์ รวมทั้งตรวจหาเชื้อจากควายตัวที่เลี้ยงไว้ในคอกเดียวกัน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด ได้สั่งการห้ามเคลื่อนย้ายควายและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด รวมทั้งนำตัวเจ้าคอกควายให้ทีมสอบสวนโรคได้ตรวจสอบ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังเตรียมออกคำสั่งกักกันสัตว์ไว้เบื้องต้นเป็นเวลา 1 เดือนก่อนนั้น


วันนี้ (2 มิ.ย.)​ ทีมสอบสวนโรค จ.สระแก้ว ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่บ้านคลองผักขม ม.8 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว เพื่อประชุมหาข้อมูลผู้สัมผัสโรค รวมทั้งกำหนดแนวทางค้นหาผู้สัมผัสในกิจกรรมและพื้นที่เสี่ยงและค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมด้วยการทบทวนเวชระเบียนของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองผัก

และเร่งค้นหาผู้ป่วยหรือสัตว์ตายผิดปกติในพื้นที่ ต.ท่าแยก และทำลายเชื้อในสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อ โดยปศุสัตว์ จะส่งตรวจตามระบบ ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ ได้เข้าเก็บตัวอย่างในพื้นที่ที่พบการเกิดโรคแอนแทรกซ์ รวมทั้งยังตั้งด่าน3 จุดในจังหวัด เพื่อห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ในช่วงนี้

จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านผู้ป่วยรายแรก เพื่อนำรถฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณคอกควายตัวที่พบเชื้อ และฟางซึ่งอยู่ในจุดที่มีการชำแหละเนื้อควายและให้มีการนำไปเผาทิ้งทั้ง ส่วนกระดูกทราบว่ามีการนำไปต้มเพื่อบริโภคแล้ว

ก่อนเคลื่อนรถฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไปในจุดที่ควายถูกฆ่า บริเวณป่ายูคาลิปตัสซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ้านและคอกควาย จนครบทุกจุด


ด้าน นายวุฒิพงษ์ เจ้าของควายที่แพร่เชื้อโรคแอนแทรกซ์ บอกว่าก่อนที่ตนเองจะป่วยได้กินเนื้อควายที่เลี้ยงไว้และควายไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด

และยังบอกอีกว่าได้ซื้อควายตัวดังกล่าวมาจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สาเหตุที่ต้องฆ่าเพราะควายมักหนีออกจากลวดที่ล้อมและหนีจากฝูง จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงกลางป่ายูคาลิปตัส ก่อนนำมาชำแหละขายในพื้นที่

" ควายตัวนี้หลังจากชำแหละมีคนที่ซื้อไปกินประมาณ 20-30 คน ซึ่งเป็นคนในกลุ่มหมู่บ้านคลองผักขมและใกล้เคียง และหลังจากนี้ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทุกประการ" นายวุฒิพงษ์ กล่าว