สหราชอาณาจักรต้องพร้อมสำหรับสู้รบและเอาชนะสงคราม ไม่ว่าต้องเผชิญหน้ากับรัฐใดๆที่มีกองกำลังทหารล้ำสมัย จากคำประกาศกร้าวของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ระหว่างแถลงเปิดตัวแผน 1,500 ล้านปอนด์(ราว 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 65,000 ล้านบาท) สำหรับคลังแสงอาวุธและระเบิดแห่งใหม่ อีกอย่างน้อย 6 แห่ง
คำเตือนของสตาร์เมอร์ มีก่อนหน้าที่เขาจะเผยแพร่รายงานการทบทวนครั้งใหญ่ต่อแสนยานุภาพทางทหารของสหราชอาณาจักร ใขณะที่สหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆทั่วยุโรป กำลังพยายามยกระดับอุตสาหกรรมกลาโหมของตนเอง ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บอกว่าทวีปแห่งนี้จำเป็นต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบด้านความมั่นคงของตนเองมากกว่าเดิม
"เรากำลังถูกคุกคามโดยตรงโดยรัฐทั้งหลายที่มีกองทัพล้ำสมัย ดังนั้นเราต้องพร้อมสำหรับสู้รบและเป็นฝ่ายชนะ" สตาร์เมอร์เขียนบทความลงบนหนังสือพิมพ์เดอะซันในวันอาทิตย์(1มิ.ย.) พร้อมยกตัวอย่างการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และความร่วมมือกันระหว่างรัสเซียกับอิหร่านและเกาหลีเหนือ
จอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีกลาโหมแถลงเกี่ยวกับโครงการลงทุนด้านกระสุน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีในวันอาทิตย์(1มิ.ย.) ให้คำจำกัดความว่ามันเป็นการส่งสารถึงมอสโก เช่นเดียวกับเป็นหนทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ
กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเผยว่าพวกเขาจะทำการจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลสูงสุด 7,000 ลูก โดยเป็นการผลิตภายในประเทศ และการลงทุนพิเศษนี้นั่นหมายความว่าสหราชอาณาจักรจะใช้งบประมาณราวๆ 6,000 ล้านปอนด์ ในด้านกระสุนในรัฐสภาปัจจุบัน
หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์ส รายงานว่ารัฐบาลต้องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพยิงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามทางกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
รายงานการทบทวนการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์โดยรัฐบาลพรรคเลเบอร์ของสตาร์เมอร์ฉบับนี้ จะระบุถึงภัยคุกคามต่างๆที่สหราชอาณาจักรต้องเผชิญ รวมถึงความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์การทหารและการบริการต่างๆที่จำเป็น ที่ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมาย
ก่อนหน้านี้ สตาร์เมอร์ เคยประกาศจะยกระดับการใช้จ่ายด้านกลาโหมแตะระดับ 2.5% ของจีดีพี ภายในปี 2027 และวางเป้าหมายในระยะยาวไว้ที่ระดับ 3%
ที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้แถลงแผนหลายพันล้านปอนด์ในการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถใช้เสริมสร้างการตัดสินใจในสมรภูมิรบ และรับปากแยกกันว่าจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 1,500 ล้านปอนด์ ในการจัดการกับสภาพอันย่ำแย่ของฐานที่ตั้งของกองทัพ
(ที่มา:รอยเตอร์)