ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “ทักษิณ” โผล่สยบข่าวลือหนี หลังศาลฎีกาฯนัดไต่สวน “ติดคุกทิพย์” ศุกร์13 มิ.ย.
จากกรณี “ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” อดีต สส.นครนายก ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ศาลฯไต่สวน “ปมบังคับโทษ” กรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาตัวที่ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และ มาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
ศาลฯ ไม่รับพิจารณาคำร้องของ “ชาญชัย” ด้วยเหตุผลว่า ไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายโดยตรง
แต่เมื่อความปรากฏต่อศาลฯ ว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษา ที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก ศาลฯ จึงเป็น “เจ้าภาพ”เอง ไต่สวนเพื่อให้สังคมหายข้องใจว่า ช่วง 6 เดือนที่อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จนได้พักโทษกลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ครบ 1 ปีนั้น ถือว่าเป็นการ “ติดคุก” แล้วหรือไม่
โดยศาลมีคำสั่งนัดพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง “ทักษิณ” เพื่อเปิดทำการไต่สวน ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้
หลังจากศาล มีคำสั่งเพียงสัปดาห์เดียว “แพทยสภา” ก็มีมติด้วยเสียงข้างมากๆๆๆ ให้ลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา “ทักษิณ” โดยพักในอนุญาตประกอบโรคศิลปะ 2 คน ว่ากล่าวตักเตือน 1 คน
ฐานให้ข้อมูลการรักษา “ทักษิณ” ไม่ตรงกับความเป็นจริง!!
ยิ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับประเด็นปัญหาที่ว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วยวิกฤต การส่งมารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จึงเป็นไปโดยมิชอบ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า ออกจากเรือนจำกรุงเทพฯ มาโดยมิได้ขออนุญาตศาล
มีนักกฎหมาย นักวิเคราะห์ วิจารณ์ บอกว่านี่เท่ากับ “ทักษิณ” ยังมิได้รับโทษตามหมายจำคุก ต้องกลับไปนับ 1 ใหม่
เจอเข้าอย่างนี้ อย่าว่าแต่”ทักษิณ” เลย เรียกว่า “หนาวกันทั้งตระกูล” ดีกว่า
เกือบทั้งเดือนพฤษภาคม “ทักษิณ” กบดานเงียบ ไม่โผล่หน้าออกมา “สทร.” เหมือนเช่นเคย ทั้งๆ ที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กำลังเจอแรงเสียดทาน เจอปัญหาการเมือง รอบด้าน
จึงห้ามไม่ได้ที่จะมีข่าวลือว่า “ทักษิณ” เผ่นออกนอกประเทศไปแล้ว!!
เมื่อลือกันหนัก สองวันก่อน“นายกฯอิงค์” เลยต้องออกมายืนยันว่า พ่อ อยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้หนีไปไหน
ขณะที่ “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ก็จัดอีเวนต์ให้ “ทักษิณ” ไปโชว์วิชัน เกี่ยวกับเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ในช่วงบ่าย วันที่ 27 พ.ค. นัยว่าเป็นการโชว์ตัวเป็นๆให้เห็นกันเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูด
แล้ว “ทักษิณ” ก็นั่งรถโรลส์-รอยซ์ ไปปรากฏตัว ที่ป.ป.ส. ทันทีที่เจอนักข่าว ก็โบกมือทักทาย บอกว่า “ยังอยู่ดี กินดี ไม่ได้ไปไหน”
หลังปาฐกถา “ทักษิณ” ยังตอบคำถามในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องฮั้ว สว. ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก จ.เชียงราย เรื่อง ยิ่งลักษณ์ ที่ศาลปกครองสูงสุด บอกว่าต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการระบายข้าว จีทูจี 1หมื่นล้าน รวมทั้งเรื่อง ข่าวลือว่าหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
... มีคนปล่อยข่าว ว่าผมหนีไปแล้ว และผมเพิ่งกลับมาวันนี้ หนีไปทางช่องทางธรรมชาติ แต่เครื่องบินจอดไว้ที่นี่ ออกช่องทางธรรมชาติ และบินไปที่อื่น ไปกันใหญ่ ผมไม่อยากให้ทุกท่านแต่งนิยาย อย่าง เจ.เค.โรว์ลิง คนแต่งนิยายเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ จนดัง จนรวย อันนี้เขาใช้จินตนาการแต่งนิยายให้เกิดประโยชน์ แต่ของเรา นิยายน้ำเน่าชิบหาย จินตนาการเลอะเทอะ หลอกไปหลอกมา เชื่อตัวเองอีก...บอกว่านายกฯอิ๊งค์ ไปรอที่ลอนดอน และผมก็จะหนีตามไป เป็นเรื่องตลก วันนี้คนไทยต้องตั้งหลักให้ดี อย่าให้คนจูงได้ง่าย...
“ทักษิณ” ยังพูดถึงมติของแพทยสภา เรื่องชั้น14 ว่า... แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์ บางทีแพทยสภา ก็ไม่มีจริยธรรมเสียเอง
...บางคนไลน์กลุ่มหลุดออกมา แพทยสภาบางคนด่าผม อยู่ในไลน์กลุ่ม แล้วแพทยสภาอีกคนหนึ่ง ก็ตอบเป็น สติกเกอร์ ไปว่า YES ซึ่งยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างนี้เรียกว่า จริยธรรมมีปัญหาซะเอง ...
“ทักษิณ” ยังส่งสัญญาณไปถึง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข เรื่องจะเห็นชอบตามมติแพทยสภา หรือ จะวีโต้ ว่า เชื่อว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์ มีข้อมูลทุกอย่าง และต้องคิดให้เยอะหน่อย
เมื่อถามว่า กังวลกับเรื่องนี้หรือไม่ “ทักษิณ” เฉไฉไปว่า ก่อนมา “ลูกอิ๊งค์” ซื้อเป็ดโฟร์ซีซั่น มาฝาก กินข้าวหมดจาน สบายๆ
ส่วนวันที่ 13 มิ.ย. ที่ศาลนัดพร้อมเพื่อทำการไต่สวน จะไปหรือไม่ ขอปรึกษาทนายก่อน ความจริงแล้วจะไป หรือไม่ไปก็ได้
... ยังมีเวลาตั้งหลายวัน วันที่ 12 มิ.ย. ตอนเที่ยงคืน ค่อยตัดสินใจ ไม่มีอะไรเลย จริงๆแล้วจะไปหรือไม่ไป ก็เป็นเรื่องของความร่วมมือกับศาล ถ้าศาลต้องการข้อมูล เราก็ให้ได้ ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรที่จะไปตื่นเต้น อย่ามาตื่นเต้นแทนผมสิ...
ส่วนเรื่องหนีนั้น ...ไม่มีเหตุผลอะไรเลย แหม่ อุตส่าห์กลับมาแล้ว ก็มาทำงาน และมีพระบรมราชโองการ มีพระมหากรุณาธิคุณ ลดโทษแล้ว บอกให้ผมใช้ความรู้ ความสามารถช่วยเหลือประชาชนในบ้านเมือง ผมก็ต้องรับด้วยเกล้าฯ รับใส่เกล้าฯไว้ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ผม...
ต้องติดตามกันว่า ศุกร์ 13 มิ.ย. “สายมู” อย่าง “ทักษิณ”ที่เชื่อในเรื่องโชค ลาง จะไปศาลหรือไม่ และหลังจากนั้น การเมืองจะมาถึงจุดเปลี่ยนอย่างที่หลายๆคน วิเคราะห์กันไว้หรือไม่
++ "เสี่ยเฮ้ง" และพวกชิ่ง รสทช. ย้ายรังหา “โอกาสใหม่”!!
"เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาให้สัมภาษณ์ แบบมีนัยยะสำคัญ ทำเอาต่อมเผือกของคอการเมืองทำงานหนักมาก!
"เสี่ยเฮ้ง" แย้มว่า หลังจบศึกอภิปรายงบประมาณฯ วันที่ 31พ.ค.นี้ จะนัดแก๊งเพื่อนซี้ ที่เขาบอกว่ามีมากกว่า 5-6 คนมา "กินข้าว" คุยกันเรื่องอนาคตทางการเมือง!
หลายๆคนพอได้ยินคำว่า "กินข้าว" นี่ก็รู้แล้วว่า มีอะไรในกอไผ่แน่นอน!
จับจากคำพูดอื่นๆ ของ "เสี่ยเฮ้ง" ที่บอกว่า "เราพูดคุยปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ...ตอนนี้รัฐบาลผ่านมาครึ่งเทอมแล้ว ก็ต้องมีการพูดคุย...ความชัดเจนจะเกิดขึ้นตามสถานการณ์"
แสดงว่ากำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนออกมา "เสี่ยเฮ้ง" จะโบกมือลาบ้านหลังเก่าอย่าง รทสช. ไปซบตักบ้านหลังใหม่ตามที่มีกระแสร่ำลือกันมาก่อนหน้านี้ ?
ถามว่าจุดหมายปลายทาง “รังใหม่” จะเป็นที่ใด จะใช่ “พรรคกล้าธรรม” หรือไม่ ? "เสี่ยเฮ้ง" ก็ตอบแบบกั๊กๆ ว่า "กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นพี่ แต่เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กัน...แต่ตัวเองไม่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว... ต้องพูดคุยกันหาโอกาสใหม่ๆ อะไรดีๆ"
เหตุที่มีชื่อพรรคกล้าธรรม มาเอี่ยวกับรังใหม่ “เสี่ยเฮ้ง” ให้คอการเมืองคิด ก็เพราะว่าระหว่างที่ “เสี่ยเฮ้ง” ให้สัมภาษณ์คนที่ยืนฟังอยู่ข้างหลังก็คือ “อิทธิ ศิริลัทธยากร” รมช.เกษตรและสหกรณ์ สมาชิกพรรคกล้าธรรม ซึ่งภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทั้ง สุชาติและอิทธิ ก็ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปพูดกัน 2 คน หรือว่านั่นกำลังสับขาหลอก "เจรจาธุรกิจ" กันอยู่ ?
เอาเป็นว่าไม่รู้ “เสี่ยเฮ้ง-อิทธิ” คุยอะไรกันแน่ ที่แน่ๆวงในกระซิบมาว่า "เสี่ยเฮ้ง" เตรียมย้ายไปอยู่ "พรรคโอกาสใหม่" ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อจาก "พรรคไทยเป็นหนึ่ง" หาใช่พรรคกล้าธรรม
ฟังว่า “เสี่ยเฮ้ง” มั่นอกมั่นใจบ้านหลังใหม่ต้อง "ปัง" กว่าเดิม ระหว่างนี้อาจจะต้องไปแต่งเติมคิ้วให้ดูดี แต่งหน้า ทาปาก อีกนิด
หากการย้ายรังใหม่เกิดขึ้นก็ต้องถือว่า "เสี่ยเฮ้ง" หรือ สุชาติ ชมกลิ่น เป็นนักการเมืองที่มีเส้นทางการเมืองย้าย และซบมาแล้วหลายพรรค
เริ่มต้นจากการเป็นสมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ชลบุรี ในปี พ.ศ.2554 สังกัดพรรคพลังชล
ในปี พ.ศ.2562 ได้ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ของลุงๆ และได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.แรงงาน ในรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ช่วงที่ "เสี่ยเฮ้ง" ยังโลดแล่นอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ถ้ายังจำกันได้ มีข่าวขัดแย้งกับ "นายใหญ่แห่งบ้านแสนสุข" อย่าง "เสี่ยแป๊ะ" สนธยา คุณปลื้ม ถึงขั้นไม่กินเส้นกันอย่างรุนแรง!
ว่ากันว่า เรื่องผลประโยชน์และการจัดวางอำนาจในพื้นที่ จ.ชลบุรี คือชนวนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองถึงจุดแตกหัก
ในปี พ.ศ.2566 ย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์
ตลอดเส้นทางการเมือง "เสี่ยเฮ้ง" ได้ชื่อว่า เป็นนักการเมืองที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองหลายกลุ่ม และมีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง ในจ.ชลบุรี
งานนี้ต้องจับตาดูว่า "เสี่ยเฮ้ง" จะย้ายรังไปอยู่บ้านหลังใหม่ “โอกาสใหม่”จะเป็นโอกาสดีๆ อย่างที่เขาว่าแค่ไหน!? น่าติดตามยิ่ง
