xs
xsm
sm
md
lg

‘โรม’ เตือนแนวโน้มการเมืองทรุด อาจเกิดนิติสงคราม เหตุรัฐบาลทำตัวเอง – จับตาวาระกาสิโนเอื้อบางคนเตรียมเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



‘โรม’ ชี้มรสุมรุมเร้ารัฐบาลทำแนวโน้มการเมืองแย่ เจอแรงกดดันสารพัด อาจจะเกิดนิติสงคราม ที่ส่วนใหญ่เกิดจากทำตัวเอง เชื่อร่างงบ 69 ผ่านยังไม่ยุบสภาแต่จะเป็นสนิมเนื้อในกิน รบ.อย่างหนัก จับตาเตรียมเช็กบิล กาสิโนวาระแรก ดักคออยากให้ใครบางคนได้เงินเข้ากระเป๋าเตรียมเลือกตั้งหรือไม่ ขอไม่ประเมิน "จตุพร" จับมือ "สนธิ" แต่อยากเห็นการเมืองมีเสถียรภาพ


วันที่ 27 พ.ค.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคดีจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผลคำตัดสินคดีชั้น 14 ของนายทักษิณนั้น ว่า หากจะให้ตนประเมินถึงแนวโน้ม ก็ต้องยอมรับว่ามีแนวโน้มแย่ คือ ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปที่ตั้งคำถาม หรือกังวลว่ารัฐบาลนี้จะมีความไม่แน่นอน หรือขาดเสถียรภาพทางการเมืองเท่านั้น เพราะข้าราชการ หรือคนทำงานเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน เนื่องสุดท้ายเรื่องเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว วันนี้เริ่มทำให้รัฐบาลนี้ เจอกับแรงกดดันในหลายรูปแบบ และบางเรื่องก็ต้องยอมรับว่า อาจจะเป็นนิติสงคราม ที่เกิดขึ้นโดยหนึ่งในปัจจัยนั้น คือการรัฐประหารปี 57 ขณะที่บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ท่านทำตัวเอง เช่น กรณี ชั้น 14

นายรังสิมันต์ กล่าวว่าดังนั้น ต้องยอมรับว่า ทั้งเรื่องที่ทำตัวเอง และเรื่องที่อาจไม่ได้รับความยุติธรรม มันกำลังประดังเข้ามาในรัฐบาลนี้ ดูแล้วก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันว่า การเมืองจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตนก็มองคล้ายกับหลายคนว่า การเมืองวันนี้ขาดความแน่นอน และการที่จะบรรลุนโยบายต่างๆ เป็นไปได้ยาก

ส่วนเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระแรก ที่หลายคนมองว่าอาจจะนำไปสู่การยุบสภา มองว่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ได้มองไปถึงว่ารัฐบาลจะยุบสภาโดยใช้เหตุผลเรื่องงบประมาณ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือสนิมกินรัฐบาลอย่างหนัก เป็นบทพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้บริหารไม่มีประสิทธิภาพทางนโยบาย และการบริหารงานภายใน ทำให้การที่รัฐบาลจะดำรงชีพต่อไปก็ยากขึ้นทุกที การมีนายทักษิณในประเทศไทยไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น อาจจะแย่ลงด้วยซ้ำ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุผลอะไร ก็เกิดขึ้นได้หมด

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่าอีกเรื่องที่ต้องจับตามองของรัฐบาล ที่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดปัญหามากยิ่งขึ้น คือเรื่องกาสิโนเนื่องจากในเดือนก.ค.นี้ เมื่อเปิดสภามา จะเช็คบิลเป็นวาระแรก เพราะในช่วงที่สภาปิดรัฐบาลไม่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น ไม่มีการทำให้โปร่งใส หรือการจัดการปัญหาทุนสีเทา ยกตัวอย่าง กรณีออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จะมีการรับประกันหรือไม่ ว่าจะไม่เกิดกรณีนี้อีก หากฝีไม่แตกถ้าไม่รู้ว่าเรามีอาการป่วยอะไร ดังนั้นปัญหาที่รัฐบาลกำลังเจอเยอะมาก โดยที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการได้ หากรัฐบาลต้องผลักดันเรื่องกาสิโน ก็อาจทำให้สถานการณ์ภาพรวมของประเทศ อยู่ในอาการที่เลวร้ายลงไปอีก ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า ไม่เห็นหรือว่าเรากำลังเจอกับปัญหาเรื่องอื่นๆ แต่ทำไมรัฐบาลต้องการผลักดันกาสิโน อยากให้ประเทศมีเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น หรืออยากให้ใครบางคนในรัฐบาลมีเงินเข้ากระเป๋า เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งในรอบต่อไป

นายรังสิมันต์ กล่าว่าเนื่องจากความเลวร้ายที่หมายถึงนั้น คงไม่อาจคาดคะเนไปถึงจุดของการให้มวลชนออกมา เพราะในสถานการณ์นี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือรัฐบาลควรฟังเสียงของสังคมและประชาชน เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เรื่องพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่พรรคร่วมรัฐบาลทำกันเป็นสัญญาณออกมาเป็นระยะว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ บางครั้งอย่ามองแค่ว่า การยกมือโหวตในสภาแล้วจบ หากใครที่ไม่มีความชอบธรรมในเชิงเนื้อหาหรือคุณภาพ ก็ทำให้ประชาชนไม่เห็นด้วยในสิ่งที่รัฐบาลทำ หากประชาชนไม่เห็นด้วยมากๆ ก็จะเกิดวิกฤติศรัทธา จะผลักดันอะไรก็ยากขึ้น ทำให้โอกาสที่รัฐบาลสำเร็จ เป็นไปไม่ได้

สำหรับกรณีปรากฏภาพระหว่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน และนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กอดกัน จะเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอไม่คาดเดา เพราะจะยิ่งทำให้การไปประเมินเลวร้ายลง เราคือฝ่ายค้านไม่ได้เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลในหลายเรื่อง แต่เราอยากเห็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ และมองว่าการเมืองที่มีเสถียรภาพมันดีกับประชาชน ควรใช้กลไกที่เป็นปกติ อยากเห็นรัฐบาลรับฟังเสียงประชาชน แต่ไม่อยากคาดคะเนว่า อะไรจะเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น