"ชาญชัย-สมชาย" เล็งส่งข้อมูลเอกสารปมชั้น 14 เพิ่ม 29 พ.ค นี้ ลั่น 13 มิ.ย. "ทักษิณ" ไม่มาขึ้นศาลฎีกาเจอออกหมายจับแน่ ด้าน "ทนายนกเขา" อัด รมต.เชิญ 'แม้ว' จ้อแก้ยาเสพติด ทั้งที่เคยสังหาร 2,000 ศพ ชี้ "จตุพร" จับมือ "สนธิ" เพื่อทำบ้านเมืองให้ดีขึ้น ไม่ได้พุ่งตรงรัฐบาล
วันนี้(26พ.ค.) นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กล่าวถึงภาพที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ จับมือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ชัดเจนว่าวันนี้มาร่วมกันทำงาน ให้บ้านเมืองดีขึ้นไม่ได้พุ่งตรงต่อรัฐบาล แต่พุ่งตรงต่อปัญหาของบ้านเมือง เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาคประชาชนจะเข้ามาแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกต ว่าจะมาล้มระบอบทักษิณ หรือไม่นั้น ตนมองว่าระบอบทักษิณมีอยู่จริง และถ้ามีอยู่จริงและเลวร้ายจริงไม่ว่าจะเป็นนายสนธิหรือนายจตุพรหรือไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องกำจัดระบอบนี้ แต่ถ้าไม่มีอยู่จริงก็ไม่ต้องกังวล ดังนั้นฝนส่วนของของนายสนธิกับนายจตุพรสิ่งที่เราได้เห็นคือภาพประชาชนขยับเข้าหากันมากขึ้น แต่ก็ต้องมีการหารือกันว่าบ้านเมืองจะเดินในทิศทางอย่างไร รัฐบาลกลายเป็นเรื่องเล็ก แต่ปัญหาใหญ่และวันนี้ชัดเจนว่านักการเมืองทุกพรรคการเมืองแก้ไขไม่ได้ บางพรรคไม่ยอมแก้ไข ขณะที่บางพรรคทำให้เรื่องเลวร้ายขึ้น
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร พยายามโชว์ว่าตัวเองมีบทบาทอยู่ ไม่ได้หายไปไหน แม้จะยังมีคดีเรื่องชั้น 14 ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดในวันที่ 27 พ.ค. นี้ ทนายนกเขากล่าวว่า รัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เชิญนายทักษิณไปต้องไปอ่านมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญ ว่าจะเป็นการผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ ที่เชิญนายทักษิณไปบรรยายเรื่องการแก้ไขยาเสพติดโดยการใช้กำปั้นสังหารไป 2,000 กว่าศพ แล้ววันนี้เชิญคนอย่างนี้มากล่าวเรื่องนี้ ขณะเดียวกันยังมีข้อกังขาคดีเกี่ยวกับการติดคุกหรือไม่ ป่วยหรือไม่ นี่เป็นจิตสำนึกของรัฐมนตรีจะชั้นต่ำชั้นสูงก็ไปคิดเอา ทำแบบนี้บ้านเมืองดีขึ้นหรือเปล่า กลไกนี้ไปต่อได้หรือเปล่าก็คิดดู
เมื่อถามว่า สังคมมองว่า การที่นายทักษิณออกมาแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้เพื่อสยบขาวหนีออกนอกประเทศ ทนายนกเขา กล่าวว่า ตนคิดว่านายทักษิณจะอยู่หรือจะไป จะหนีหรือไม่หนีก็จบแล้ว ไม่หนีก็กลับเข้าคุก คำว่า "ทักษิณ" ก็จะจบไป วันนี้บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่ฉากใหม่ นักการเมืองจะร่วมกับประชาชนหรือไม่หรือจะจมปลักอยู่กับพฤติกรรมของนายทักษิณ ซึ่งจริงภาคประชาชนก้าวข้ามทักษิณตั้งนานแล้ว พรรคการเมืองหลายพรรคก็ก้าวข้ามนานแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยต่างหากที่นำนายทักษิณเข้ามาและรอบนี้ก็นำเข้ามาให้เหยียบย่ำและจะพาประเทศไทยติดกับไปด้วย
ทนายนกเขากล่าวต่อว่า สำหรับการพิจารณาของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ถ้านายทักษิณมา เชื่อว่าศาลซึ่งมีการรวบรวมหลักฐานพยานเสร็จสิ้น และน่าจะเพียงพอที่จะมีคำวินิจฉัยออกมาในวันนั้น ถ้าไม่มีประเด็นใหม่จริงๆ ศาลน่าจะออกคำวินิจฉัยได้ แต่ถ้านายทักษิณไม่มาแล้วมีเหตุอันสมควร ศาลจะพิจารณาตรงนั้นและอาจจะพิจารณาให้เลื่อนไปอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้ามาแล้วไม่มีประเด็นใหม่จริงๆ เชื่อว่าฉันจะออกคำวินิจฉัยได้
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงที่ศาลท่านมีคำสั่งให้นายทักษิณนำคำร้องของตนไปแก้ข้อกล่าวหา และจะมีการถามซ้ำด้วยวาจาในการแก้ข้อกล่าวหาเพราะท่านไม่ได้ฟังจากปากคำของทนายความ หรือเอกสารเพียงเท่านั้น ดังนั้นถ้านายทักษิณไม่เดินทางไปขึ้นศาล ก็เท่ากับว่าสละสิทธิ์ในการชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและตรงนี้จะเป็นผลเสียหายต่อในทักษิณดังนั้นตนจึงคิดว่านายทักษิณควรไป
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า เราจะมีการยื่นพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีชั้น 14 เพิ่มเติมในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และชัดเจนมาก ว่า การส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจ กระทำการอย่างไร เอกสารที่กรรมาธิการเรียกไป ซึ่งนำมาตรวจสอบ รวมไปถึงมติแพทยสภาที่ออกมาก็ชัดเจนตรงกัน ว่า ไม่พบอาการป่วยวิกฤต ถ้าจะอ้างว่าเป็นการรักษาเฉพาะทาง ก็ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ดังนั้น หลักฐานที่จะยื่นต่อศาลเป็นการรักษาตลอด 180 วันที่ยืนยันชัดเจนว่ามีการป่วยแต่ไม่ถึงขั้นวิกฤต ถ้านายทักษิณไม่เดินทางไปศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ สิ่งที่ศาลจะดำเนินการก็คือการออกหมายจับ.