ปอท.รวบคนขายชาติ! จัดหาบัญชีม้าทั่วโคราชส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต

ตำรวจ ปอท.บุกรวบคารีสอร์ต คนไทยขายชาติจัดหาบัญชีม้าทั่วโคราชส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนฝั่งปอยเปต สารภาพขายไปแล้วกว่า 200 บัญชี ได้เงิน 200,000 บาท

วันนี้ (26 พ.ค.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. สั่งการ พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.หญิง ภาพิมล ชัยขันธ์, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี สวย.กก.3 บก.ปอท. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จับกุมนายวินัยฯ หรือเปรี้ยว อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5358/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, สมคบโดยตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” ได้ที่รีสอร์ตในพื้นที่ ม.12 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนลงเทรดหุ้นผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอม รวมมูลค่าความเสียหาย 3,800,000 บาท ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ได้เปิดปฏิบัติการ Cyber Guardian จับกุมผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 7 ราย และตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านหรูราคา 27 ล้านบาท จำนวน 1 หลัง, รถยนต์ จำนวน 2 คัน, คอนโดมีเนียมหรู จำนวน 4 ห้อง, โฉนดที่ดินที่ จ.ภูเก็ต, จ.ตาก, จ.เชียงใหม่, จ.เชียงราย จำนวนหลายแปลง, เงินสดกว่า 6 แสนบาท, ทองคำแท่งและกระเป๋าแบรนด์เนมอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 80 ล้านบาท

ต่อมาได้สืบสวนขยายผลทราบว่า นายวินัย ผู้ต้องหารายนี้ เป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าในคดีนี้ และยังเป็นพ่อบ้านคอยทำแอปพลิเคชันธนาคารให้บัญชีม้า และเฝ้าบัญชีม้าที่ออฟฟิศฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาอีกด้วย จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับไว้ กระทั่งสืบทราบว่า นายวินัย ได้หลบหนีกลับเข้ามากบดานอยู่ที่รีสอร์ตในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อจัดหาบัญชีม้า จึงนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว

สอบสวนนายวินัย ให้การรับสารภาพว่า เคยรับจ้างเปิดบัญชีม้าเมื่อปลายปี 66 จากนั้นเมื่อบัญชีถูกอายัด และรู้ว่าบัญชีถูกไปใช้เป็นบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เลยไม่กล้ากลับประเทศไทย จึงผันตัวเป็นพ่อบ้าน คอยเฝ้าบัญชีม้าที่รอสแกนหน้า ที่ออฟฟิศซานโฮ ฝั่งปอยเปต ได้รับเงินเดือนจากบอสจีนเดือนละ 15,000 บาท ทำมาแล้วเกือบ 2 ปี มีบัญชีม้าที่ชักชวนมาจากทั่ว จ.นครราชสีมา กว่า 200 บัญชี

นายวินัย ให้การต่อว่า ช่วงต้นปี 68 มีการเข้าปราบปรามแก๊งคอลฯ ฝั่งปอยเปต ทำให้ออฟฟิศปิด จึงได้ข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติกลับเข้ามาประเทศไทย และมาเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าส่งให้แก๊งคอลฯ ฝั่งปอยเปต โดยได้รับค่าจ้างบัญชีละ 1,000 บาท ได้เงินรวม 200,000 บาท จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป