ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อวันอาทิตย์(25พ.ค.) วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯและชาติอื่นๆ สำหรับท่าทีที่อ่อนนุ่มของพวกเขาที่มีต่อรัสเซีย ตามหลังมอสโกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
กองกำลังรัสเซียยิงห่าโดรนและขีปนาวุธ รวมแล้วกว่า 367 ลำ/ลูก เข้าใส่เมืองต่างๆของยูเครนในช่วงค่ำคืนวันเสาร์(24พ.ค.) ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดของสงครามนับจนถึงตอนนี้ สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 12 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 ราย ในแคว้นซีโตมีร์ ทางภาคเหนือของประเทศ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องสหรัฐฯ ที่ใช้แนวทางนุ่มนวลกับรัสเซียและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ ปูติน อย่างเปิดเผย นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง ให้ออกมาส่งเสียงเกี่ยวกับปฏิบัติการจู่โจมล่าสุดของรัสเซีย
"ความเงียบงันของสหรัฐฯ ความเงียบงันของคนอื่นๆในโลกใบนี้ รังแต่จะสร้างความฮึกเหิมแก่ปูติน" เขาเขียนบนเทเลแกรม "ทุกๆการโจมตีก่อการร้ายของรัสเซียเช่นนี้ มีเหตุผลเพียงพอสำหรับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย"
ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่สุดในแง่ของการยิงอาวัธ แต่ปลิดชีพผู้คนน้อยกว่าการโจมตีอื่นๆ
อิฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน บอกว่ามีผู้เสียชีวิต 12 รายและบาดเจ็บมากกว่า 60 คน แต่เจ้าหน้าที่และทีมกู้ภัยท้องถิ่นให้ตัวเลขที่ต่างออกไป อยู่ที่ 13 ราย "มันเป็นการโจมตีผสมผสาน เป็นการโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนเล็งเป้าเข้าใส่พลเรือน เป็นอีกครั้งที่ศัตรูแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของพวกเขาคือความหวาดกลัวและความตาย" เขาเขียนบนเทเลแกรม
การโจมตีมีขึ้นในขณะที่ยูเครนและรัสเซียเตรียมการแลกเปลี่ยนเชลยศึกเป็นวันที่ 3 และเป็นวันสุดท้าย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันรวมแล้วฝ่ายละ 1,000 คน
คีธ เคลล็อก ทูตพิเศษสหรัฐฯประจำยูเครน บอกในวันอาทิตย์(25พ.ค.) ว่าการโจมตี "ละเมิดอย่างโจ่งแจ้ง" ต่ออนุสัญญาเจนีวา 1977 และเรียกร้องให้หยุดยิงในทันที
ยูเครนและพันธมิตรยุโรป หาทางกดดันให้รัสเซียยอมลงนามในข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน ในฐานะเป็นก้าวย่างแรกของการเจรจาเพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี
อย่างไรก็ตามความพยายามของพวกเขาต้องพบกับความผิดหวังเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลัง ทรัมป์ ปฏิเสธคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โทษฐานที่ไม่ยอมหยุดการสู้รบในทันที ตามความต้องการของยูเครน
กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียยิงโดรน 298 ลำและขีปนาวุธ 69 ลูก ในการจู่โจมเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่พวกเขาสามารถสอยร่วงโดรน 266 ลำและขีปนาวุธ 45 ลูก อย่างไรก็ตามพบเห็นความเสียหายอย่างกว้างขวางครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ ในนั้นรวมถึงคาร์คีฟ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูเครน เช่นเดียวกับมีโคลาอีฟ ทางภาคใต้และเทอร์โนพิล ทางภาคตะวันตก
ในกรุงเคียฟ ทีมูร์ คาเชนโก หัวหน้าสำนักงานบริหารทหารของเมือง กล่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 รายในเหตุโดรนโจมตี ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในเมืองหลวง แต่พบผู้เสียชีวิต 4 ราย ในภูมิภาครอบๆกรุงเคียฟ
มันถือเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หนที่ 2 ในรอบ 2 วัน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์(23พ.ค.) รัสเซียยิงโดรนหลายสิบลำและขีปนาวุธหลายสิบลูกเข้าใส่เคียฟ เป็นระลอกๆที่ลากยาวตลอดทั้งคืน
(ที่มา:บีบีซี/ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์)