เชียงราย - ชายแดนแม่สายหนีไม่พ้น เจอน้ำท่วมหนักซ้ำ..หลังฝนตกหนักทั้งคืน น้ำสายทะลักล้นพนังที่ยังสร้างไม่เสร็จตั้งแต่ 02.00 น.เศษ ท่วมชุมชนริมฝั่งรอบสองของปี 68 แถมกินบริเวณกว้าง-ลึกกว่า ชาวบ้านกำลังหลับขนรถรา-ข้าวของหนีไม่ทัน เสียหายยับ แถมเช้ามาระดับยังเพิ่มปริ่มสะพานเชื่อมท่าขี้เหล็ก แบบไม่มีทีท่าจะลด
วันนี้ (24 พ.ค.) หลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น.และเอ่อล้นข้ามพนังป้องกันน้ำท่วมที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จก่อนทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่ริมฝั่งเป็นรอบที่ 2 ของปี 2568 หลังจากเคยเข้าท่วมเมื่อวันที่ 29 เม.ย.มาแล้วครั้งหนึ่ง
ระลอกนี้มวลน้ำล้นพนังเข้าท่วมตั้งแต่ชุมชนบ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดเหมืองแดงน้อย ชุมชนและตลาดไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย ฯลฯ มากและกว้างกว่าน้ำท่วมแม่สาย 29 เม.ย.68 โดยบางจุดลึกประมาณ 0.5-1 เมตร ทำให้ผู้คนที่อยู่ในที่ลุ่มต้องพากันขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันอย่างฉุกละหุก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำเข้าท่วมในช่วงกลางคืนจนถึงเช้ามืด ผู้คนกำลังหลับไหลขนของหนีน้ำกันไม่ทัน หลายครอบครัวไม่ทันได้นำกระสอบทรายไปวางกั้นตามจุดที่น้ำเข้า ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมตัวบ้านจนสร้างความเสียหายโดยถ้วนหน้า รถหลายคันจอดอยู่ตามถนนไม่ได้โยกย้ายก็ถูกน้ำท่วม
ขณะที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เชื่อม อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่าน้ำได้ล้นกระสอบทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็ค ทะลักเข้าท่วมชุมชนที่ฝั่งตะวันออกของสะพาน อย่างหนัก
กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.วันเดียวกันระดับน้ำยังคงท่วมสูงและบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน รวมทั้งมีฝนตกในประเทศเมียนมา ทำให้มีแนวโน้มว่าระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.แม่สาย เทศบาล ต.เวียงพางคำ ทหารกองกำลังผาเมือง ทหารกรมการทหารช่างกองทัพบก ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ ต้องเร่งระดมกำลังกันเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน
ขณะที่โครงการก่อสร้างพนังกั้นกึ่งถาวรและชั่วคราวตั้งแต่ชุมชนหัวฝาย-สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนลงเสาเข็มให้อยู่เหนือดิน 3 เมตร และการขุดลอก ต้องหยุดลงชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลด ทั้งนี้โครงการมีกำหนดก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.-20 มิ.ย.2568 นี้ ซึ่งพบว่าทั้งฝ่ายไทยและเมียนมาต่างเร่งทำพนังกั้นน้ำ ส่วนการขุดลอกซึ่งฝ่ายไทยและเมียนมาแบ่งกันดำเนินการพบว่าฝ่ายไทยทำการขุดลอกแม่น้ำรวกอย่างต่อเนื่องแต่ฝ่ายเมียนมายังทำการขุดลอกแม่น้ำสายไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ท้องแม่น้ำยังตื้นเขินและทะลักเข้าท่วมอีกครั้งดังกล่าว
ด้าน ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดเผยว่าน้ำที่เข้าท่วมชายแดนครั้งนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงว่ามีโลหะหนักปนเปื้อนมาด้วยหรือไม่หลังจากก่อนหน้านี้มีการตรวจคุณภาพน้ำและพบสารหนูอยู่ จึงขอให้ภาครัฐได้มีการประกาศแผนรับมือน้ำท่วมรอบใหม่ที่จะมาถึงอีกไม่นานจากนี้ และขอให้มีการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าน้ำท่วมมีสารพิษปนเปื้อนมาด้วยหรือไม่ เพื่อให้คำแนะนำประชาชนว่าต้องทำตัวอย่างไรในสถานการณ์น้ำท่วมที่มีสารพิษปนเปื้อน และต้องเร่งเจรจากดดันทางการเมืองให้ทางการเมียนมาและสหรัฐว้าได้ปิดเหมืองต้นน้ำสายอย่างถาวร.
