"ดีเอสไอ" เตรียมประชุมคณะพนักงานสืบสวนคดี "แตงโม-นิดา" สงสัยกลุ่มบุคคลร่วมกันบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ช่วยคนผิดไม่ต้องรับโทษ
จากกรณีที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ และ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม รวม 4 จำเลย ข้อหาประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม อดีตนักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิต เมื่อปี 2565 ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (23 พ.ค.) รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสืบสวน เรื่องสืบสวนที่ 20/2568 ได้มีหนังสือเชิญประชุมคณะพนักงานสืบสวน รายละเอียดดังนี้ ด้วยหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน มีข้อสั่งการให้มีการประชุมคณะพนักงานสืบสวน กรณีการสืบสวนการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโม ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นที่ต้องสงสัยว่ามีกลุ่มบุคคลส่วนต่างๆ ร่วมกันบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้การช่วยเหลือแก่บุคคลอื่นให้ไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ครั้งที่ 3/2568 ในวันอังคารที่ 27 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารราชบุรีติเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เพื่อให้การดำเนินการสืบสวนดังกล่าวเป็นด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในส่วนของระเบียบวาระการประชุมของคณะพนักงานสืบสวนดังกล่าว ปรากฏ 4 วาระ คือ วาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ วาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนครั้งที่ 1/2568 และครั้งที่ 2/2568 วาระที่ 3 เรื่องเพื่อทราบ แจ้งความคืบหน้าการสืบสวน และการติดตามผลการพิจารณาของศาลจังหวัดนนทบุรี วาระที่ 4 เรื่องเพื่อพิจารณา ทั้งการพิจารณาแนวทางแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พิจารณาแนวทางติดตามผลการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการภาค 1 และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น พิจารณากรณีหนังสือกองบังคับการปราบปราม ที่ ตร 0026.21(8)/3188 ลงวันที่ 6 พ.ค.68 เรื่อง ขอทราบผลการดำเนินคดี การพิจารณาขอขยายระยะเวลาสืบสวน และมอบหมายภารกิจที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวยังเป็นเพียงเรื่องสืบสวน ยังไม่ได้มีการประมวลเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสามารถขยายกรอบระยะเวลาได้มากกว่า 6 เดือน เพื่อให้พนักงานสืบสวนที่ได้รับการแต่งตั้ง ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง พยานวัตถุ และพยานเอกสาร ให้มีความชัดเจน ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นความผิดที่เข้าข่ายลักษณะความผิดแนบท้ายบัญชี พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ก่อนเสนออธิบดีฯ รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ