เอเจนซีส์ – ปักกิ่งประณามอเมริกา “ข่มเหง” และกีดกันการค้า ด้วยการออกคำเตือนการใช้ชิปเอไอที่ผลิตในจีนเพื่อจำกัดการเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงและห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่ซีอีโอเอ็นวิเดียชี้เป็นความล้มเหลวของวอชิงตัน และสำทับว่า สมมติฐานพื้นฐานที่นำไปสู่กฎควบคุมการส่งออกชิปเอไอตั้งแต่ต้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าบกพร่อง
ช่วงหลายปีมานี้อเมริกาพยายามจำกัดการส่งออกชิปที่ล้ำสมัยตลอดกาลให้จีน เนื่องจากกังวลว่า อาจถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมความรุดหน้าของกองทัพจีน และบ่อนทำลายตำแหน่งผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ของอเมริกา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกมาตรการควบคุมเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงบางส่วน เพื่อตอบสนองข้อร้องเรียนของหลายประเทศที่ระบุว่า ถูกปิดกั้นจากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอ
นอกจากนั้นยังเนื่องมาจากสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ บางคนกลัวว่า การปิดกั้นดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันไปพึ่งชิปเอไอของจีนแทน ซึ่งจะกลายเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำยุคตลอดกาลของปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม วอชิงตันได้เปิดเผยแนวทางใหม่ที่เตือนบริษัทที่ใช้เซมิคอนดักเตอร์เอไอขั้นสูงของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิปแอสเซนด์ของหัวเว่ยว่า อาจเสี่ยงละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของอเมริกา
กระทรวงพาณิชย์ของอเมริกายังเตือนเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่เปิดทางให้มีการนำชิปเอไอของอเมริกาไปใช้ในการเทรนโมเดลเอไอของจีน โดยยืนยันว่า นโยบายนี้มีเป้าหมายในการแบ่งปันเทคโนโลยีเอไอของอเมริกากับประเทศที่ไว้วางใจได้ทั่วโลก ควบคู่ไปกับการป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีนี้ตกอยู่ในมือศัตรู
ก่อนหน้านี้อเมริกาแบ่งประเทศออกเป็น 3 เทียร์ แต่ละเทียร์จะมีระดับการจำกัดเฉพาะ เช่น ประเทศที่อยู่เทียร์ 1 อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะไม่ถูกจำกัดการส่งออก ขณะที่ประเทศเทียร์ 2 อย่างเม็กซิโกและโปรตุเกส มีข้อจำกัดในการเข้าถึงชิป
ในวันพุธ (21 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า คำเตือนดังกล่าวเป็นการข่มเหงฝ่ายเดียวและการกีดกันการค้า ซึ่งบ่อนทำลายเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอย่างรุนแรง
แถลงการณ์ยังระบุว่า การดำเนินการเหล่านี้ส่งผลร้ายแรงต่อสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของธุรกิจจีน ตลอดจนถึงผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของจีน พร้อมเตือนว่า องค์กรหรือบุคคลใดที่บังคับใช้หรือให้ความช่วยเหลือในการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายจีน ปักกิ่งยังประกาศดำเนินการตอบโต้อย่างจริงจังเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทชิปหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียและเอเอ็มดีต่างล็อบบี้ให้อเมริกายกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออก
เจนเซน หวง ซีอีโอเอ็นวิเดีย กล่าวในงานคอมพิวเท็กที่จัดขึ้นในขณะนี้ที่ไทเปว่า การควบคุมการส่งออกชิปเอไอของอเมริกาเป็น “ความล้มเหลว” และสำทับว่า สมมติฐานพื้นฐานที่นำไปสู่กฎควบคุมการส่งออกชิปเอไอตั้งแต่ต้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า บกพร่องโดยพื้นฐาน
หวงยังกล่าวอีกว่า บริษัทต่างๆ กำลังใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่พัฒนาในท้องถิ่น และมาตรการควบคุมการส่งออกกระตุ้นให้บริษัทท้องถิ่นที่มีทักษะสูงมากและมีความตั้งใจแน่วแน่ มีความกระตือรือร้นและพลังมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเร่งรัดการพัฒนาต่อไป
ซีอีโอบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งนี้ชมว่า จีนมีระบบนิเวศเทคโนโลยีที่มีชีวิตชีวา อีกทั้งมีนักวิจัยเอไอถึง 50% ของทั่วโลก และยังมีความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์อย่างเหลือเชื่อ
หวงยกย่องดีปซีคของจีนว่า ช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเอไอ และอาจเพิ่มความต้องการในการคำนวณ 100-1,000 เท่า ส่งผลให้บริษัทเอไอทั่วโลกคร่ำครวญว่า หน่วยประมวลผลเอไอของตนกำลังจะล่ม
ดีปซีคเขย่าวงการ Gen AI ด้วยการแจ้งเกิดโมเดลประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ ซึ่งท้าทายโอเพนเอไอและยักษ์ใหญ่แห่งอื่นๆ ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการพัฒนาโมเดลเอไอระดับเดียวกัน