"บอสเตย" ถือครองทรัพย์สินร้อยล้าน หวั่นชิ่งหนีหลังขาดการติดต่อ

เปิดประวัติ "บอสเตย" ชีวิตเริ่มจากศูนย์พลิกผันกลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านชั่วข้ามคืน หลังทิดแย้มขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพบถือครองทรัพย์สินที่ดินรีสอร์ท ค่ายเพลง 3 จังหวัด มูลค่ากว่าร้อยล้าน ล่าสุดขาดการติดต่อคนรอบข้าง หวั่นชิ่งหนีคดีก่อนศาลออกหมายจับ

วันนี้ ( 21 พ.ค.)รายงานแจ้งว่าคณะทำงานคดี "ทิดแย้ม" ยักยอกเงินวัดไร่ขิงประกอบด้วย ตำรวจ บช.ก., สตง., ปปช.,ปปง.และ ปปท.ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินที่อยู่ในการครอบครองของ นางพชรพร หรือ "บอสเตย" และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สองสามีภรรยา ผู้มีอิทธิพลในวัดไร่ขิง พบว่า มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ในความครอบครองจำนวน 23 คัน ในจำนวนนี้มีรถยนต์หรู จำพวก mercedes benz , BMW ,Mini Cooper ,Hyundai จำนวน 6 คัน

นอกจากนี้ยังพบว่า ทั้งสองมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รีสอร์ท รวมถึงคาเฟ่ร้านกาแฟ อีกหลายแห่งอยู่ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ,เชียงใหม่ และ สุโขทัย รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้มีธุรกิจค่ายเพลงอีกแห่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าทรัพย์ทั้งหมดที่ นางพชรพร และ สามี ครอบครองอยู่นั้น มีที่ไปที่มาอย่างไร เกี่ยวข้องกับเงินวัดไร่ขิงที่ถูกนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสยักยอกไปด้วยหรือไม่

จากการตรวจสอบประวัติ หรือ พื้นเพเดิมของ นางพชรพร หรือ บอสเตย พบว่า เดิมทีไม่ได้มีฐานะการเงินร่ำรวย เช่าห้องพักอาศัยอยู่ข้างวัด เคยผ่านการมีสามีมาแล้ว 4 คน ก่อนจะพบรักและคบหากับ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สามีปัจจุบัน ที่เป็นคนที่ 5 กระทั่งต่อมาเมื่อปี 2551 นายแย้ม ได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นางพชรพร หรือ บอสเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สามี จึงเริ่มเข้าไปตีสนิท จนกระทั่งกลายเป็นคนที่นายแย้มไว้วางใจ ให้ทำหน้าที่คอยช่วย ดูแลกิจการของวัดไร่ขิง หลังจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งคู่ก็เริ่มร่ำรวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังได้รับแจ้งข้อมูลจากคนใกล้ชิดของ นางพชรพร และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สองสามีภรรยาคู่นี้ว่า หลังจากที่คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ถูกขุดคุ้ยตีแผ่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ นั้น ทั้งคู่ก็เริ่มเก็บตัวเงียบ รวมถึงตัดขาดการติดต่อกับคนใกล้ชิด ทุกช่องทางมาประมาณ 2-3 วัน อีกด้วย