บุรีรัมย์- เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ลุยตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังถูกแจ้งความและร้องเรียน มีพฤติกรรมเรียกรับประโยชน์จากผู้หลงเชื่อและรักษาโรคด้วยการพ่นน้ำหมากตามร่างกาย ด้านพ่อของเจ้าสำนักฯ ปัดไม่ใช่สถานปฏิบัติธรรมแค่บ้านพักอาศัย กรณีรับศพมาทำพิธีเพราะดูแลมา 10 ปีติดต่อญาติไม่ได้ เผยคนตายทำพินัยกรรมยกที่ดิน 20 ไร่ให้ก่อนเสียชีวิต
วันนี้ ( 21 พ.ค.68 ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี ร.อ.จิรภัทร ร่วมวงศ์สมบูรณ์ อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการทหาร ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.นางรอง ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำปลายมาศ และสาธารณสุขอำภอลำปลายมาศ กรณีที่สถานปฏิบัติรับศพพี่สาวออกจาก รพ. มาจัดงานศพเองโดยไม่แจ้งญาติ และโฉนดที่ดินมรดกของพ่อแม่ซึ่งปัจจุบันเป็นชื่อพี่สาวเป็นผู้ดูแลได้หายไป อีกทั้งมีข้อมูลว่า สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวมีพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากผู้หลงเชื่อและทำการรักษาโรค ให้คนที่เข้าไปปฏิบัติธรรมด้วย นั้น
ล่าสุด นายโชคไชย สว่างรัตน์ นายอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายธนธรพล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคงอำเภอนางรอง , พร้อมนายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอรับผิดชอบศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอนางรอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง
การลงพื้นที่ตรวจสอบ ไม่พบเจ้าสำนักหรือเจ้าของสำนักปฏิบัติธรรม มีเพียงผู้ดูแลแทนอยู่ ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็ไม่พบการกระทำใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ขณะที่ผู้ดูแลให้ข้อมูลว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ได้เปิดเป็นสถานปฏิบัติธรรม เป็นเพียงที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ปีหนึ่งก็จะนัดรวมตัวกันใส่ชุดขาวมาสวดมนต์และปฏิบัติธรรมในกลุ่มกันเอง และปฏิเสธว่าไม่มีการรักษาโรค หรือเรียกรับประโยชน์ใดๆ
ส่วนกรณีที่อดีตทหารซึ่งเป็นญาติของผู้ที่เคยมาปฏิบัติธรรม ติดใจเกี่ยวกับการรับศพออกจาก รพ.ไปทำพิธีเอง โดยไม่แจ้งญาติและติดใจเรื่องโฉนดที่ดินที่หายไป ก็ว่ากันไปตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบทั้งห้องที่ผู้ตายพักอาศัยก่อนจะเสียชีวิต ก็ไม่พบโฉนดที่ดินแต่อย่างใด แต่หากมีผู้เสียหายจากการถูกเรียกรับเงินทองหรือรักษาที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถแจ้งความหรือร้องเรียนตามกระบวนการขั้นตอนได้
ขณะที่พ่อของเจ้าสำนักหรือเจ้าของสถานปฏิบัติธรรม ปฏิเสธว่า สถานที่ดังกล่าวไม่ใช่สถานปฏิบัติธรรมเป็นเพียงบ้านพักอาศัย ซึ่งมีลูกชายและภรรยาลูกชายเป็นเจ้าของ แต่ที่ผ่านมาจะมีบุคคลทั้งในและนอกพื้นที่มารวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมถือศีลเฉลี่ยปีละครั้ง สำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดก็จะมาพักค้างที่นี่ ส่วนกรณีที่มีการไปติดต่อรับศพมาทำพิธีนั้น เพราะติดต่อญาติไม่ได้แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตเข้ามาอยู่ที่นี่ประมาณ 10 ปีแล้ว ก็ดูแลกันเสมือนญาติทั้งยามเจ็บป่วย เมื่อเสียชีวิตก็ดูแลจัดงานให้อย่างดี แล้วค่อยจะมีญาติมาแสดงตัวภายหลัง ยืนยันว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินตนเองไม่เคยเห็น แต่เพิ่งได้ยินลูกชายเล่าให้ฟังภายหลังเสียชีวิตแล้ว ว่า ผู้เสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินประมาณ 20 ไร่ ให้ไว้ก่อนจะเสียชีวิต
ขณะที่ผู้บริหารโรงพยาบาลนางรอง ชี้แจงว่า กรณีการรับศพหรือจำหน่ายศพผู้เสียชีวิตนั้นตามระเบียบ ทางญาติหรือผู้ดูแลกรณีศพไม่มีญาติ สามารถยื่นหลักฐานบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้ ติดต่อรับศพได้ ส่วนกรณีนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ดูแลนำหลักฐานมาขอรับศพตามขั้นตอนเพราะไม่สามารถติดต่อญาติได้ แต่เมื่อทางญาติผู้ตายติดใจ ก็พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจ