รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผย "ยังไม่ทราบ" กรณีแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร เพื่อตรวจสอบตั๋วสัญญาใช้เงิน "แพทองธาร" 4,434 ล้านบาท หลังที่ประชุม กมธ. พัฒนาเศรษฐกิจ ตัวแทนกรมสรรพากรเผยยังไม่ได้แต่งตั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
วันนี้ (20 พ.ค.) สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงกระแสข่าวถึงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร เพื่อวินิจฉัยกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมและชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434 ล้านบาทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า "ผมไม่ทราบเรื่องนี้"
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ยื่นหนังสือต่อกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้กรมสรรพากร ขอความเห็นจากคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ตามมาตรา 13 สัตต (7) แห่งประมวลรัษฎากรให้วินิจฉัยกรณีดังกล่าว และมีประกาศหรือคำวินิจฉัยเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อกรณีการใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN ในการซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินอื่นใดของ น.ส.แพทองธาร
ต่อมาการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ได้เชิญกรมสรรพากรมาชี้แจงเพื่อติดตามการร้องเรียนของนายวิโรจน์ โดยตัวแทนจากกรมสรรพากรชี้แจงว่า ปัจจุบันกรมสรรพากรยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ซึ่งมี รมว.คลัง แต่งตั้งจำนวน 3 คน และต้องมีกรรมการโดยตำแหน่ง ที่มาจากผู้แทนจากปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต อธิบดีกรมศุลกากร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้น เรื่องคณะกรรมการวินิจฉัยจะต้องมีการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิก่อน
สำหรับกรณีการใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) ในการซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินอื่นใดของ น.ส.แพทองธาร สืบเนื่องมาจากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่นต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 พบว่ารายการหนี้สินหนึ่งในนั้นเป็นสัญญากู้ยืมเงินจาก น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม พี่สาว, นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค พี่ชาย, นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง, นางบุษบา ดามาพงศ์ ภรรยานายบรรณพจน์ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา รวมมูลค่า 4,434,522,338 บาท
ต่อมาวันที่ 25 มี.ค. ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายวิโรจน์ชี้ว่าเป็นนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้ คำนวณแล้วอาจเป็นเงิน 218.7 ล้านบาท แต่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2559 ก่อนเข้าสู่การเมืองหลายปี มีความตั้งใจปรับโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท แต่เวลานั้นไม่มีความพร้อมชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงซื้อขายผ่านตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งได้แสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.แล้ว และได้พูดคุยในครอบครัวว่ามีแผนที่จะชำระรอบแรกจะเกิดขึ้นภายในปีหน้า