นายกรัฐมนตรีกล่าวหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยอมรับดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ต้องทบทวน โยนให้กระทรวงการคลังชี้แจง ขณะที่ชูศักดิ์ยันชะลอเงินหมื่น ไม่ผิดนโยบายที่แถลงต่อสภาฯ เหตุทำแล้ว ไม่ใช่ไม่ทำเลย
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจสกุล รมช.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพร้อมเพรียง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันผันผวน เนื่องจากมีการประกาศนโยบายจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประเทศมหาอำนาจ ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก ตนเองไปทุกที่ในต่างประเทศ มีผลสะท้อนกลับจากหลายประเทศ ที่ต้องมีการปรับตัวหาทางออกของแต่ละประเทศ ประเทศไทยจับกลุ่มกับอาเซียนมองเห็นปัญหาร่วมกัน วันนี้ได้มีการมาเยือนอย่างเป็นทางการของอินโดนีเซีย ได้คุยกันในเรื่องนี้ด้วย จะเห็นว่าส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทำให้ประชาชนมีรายได้ในภาพรวมลดลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทย และภาคที่ต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศ จึงต้องมีการทบทวน
ประกอบกับการจัดเก็บภาษีรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย จึงจำเป็นต้องทบทวนแผนงานและโครงการต่างๆของรัฐบาล รวมถึงการเร่งปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจโดยให้ความสำคัญกับการสร้างการเจริญเติบโตเศรษฐกิจในระยะยาวให้มากขึ้น รวมถึงสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาจึงเป็นที่มาของการประชุมในวันนี้ เพื่อร่วมกันคิดและเสนอแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อจัดเตรียมการโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยให้ทุกฝ่ายพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกิดประโยชน์เต็มที่ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วยขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมในวันนี้
ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยิ้มพร้อมกล่าวยอมรับว่าโครงการดิจิทัลวอลเลต ต้องมีการทบทวน โดยรายละเอียดกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจง
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 หากถูกยกเลิกจะมีปัญหาด้านกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว ว่า ที่ผ่านมาเขาก็ทำกัน แต่สถานการณ์มันเป็นอย่างนี้ จากที่ตนฟังดูไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ แต่อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน ไม่ใช่ไม่ทำ และใช้กลไกกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น เพราะเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็ต้องชะลอ ส่วนที่ดำเนินโครงการเฟส 1-2 ถือว่าทำแล้วจะไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าก็ทำไม่ใช่ไม่ทำเลย
ส่วนหากไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จะถือว่าผิดกฎหมาย หรือผิดต่อประชาชนหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ก็อภิปรายกันไป แต่ครั้งนี้เค้าก็ทำไปหลายโครงการแล้ว ก่อนจะย้ำว่าเท่าที่ฟังไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่ทำ แต่อาจจะทบทวนหรือช้าออกไป
ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยถึงความชัดเจนในการใช้ระบบจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะดำเนินการได้ทันเฟส 3 หรือไม่ ว่า ขอให้ไปถามกระทรวงการคลังดีกว่า ซึ่งจะได้คำตอบที่ดีกว่า ส่วนความคืบหน้าของระบบการจ่ายเงิน ระบบพร้อมใช้ไม่มีอะไร ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่กระทรวงการคลัง เมื่อถามย้ำว่าได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะมีโอกาสยกเลิกโครงการดังกล่าว นายประเสริฐยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน