xs
xsm
sm
md
lg

ทนได้ทนไป! YouTube ปรับวิธีโฆษณา ใช้ Gemini AI สแกนหาช่วงพีคแล้วยิง Ads รัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:




ใครที่อดทนดูโฆษณาวิดีโอออนไลน์อยู่ อาจต้องเพิ่มความอดทนให้มากขึ้นอีก เพราะยูทูบ (YouTube) ส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่าจะลุยเปลี่ยนประสบการณ์การดูวิดีโอออนไลน์ โดยล่าสุดได้แจ้งเกิดฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเจมิไน (Google Gemini) วิเคราะห์วิดีโอเพื่อหาจุดที่ผู้ชมอินที่สุด หรือช่วงที่อารมณ์พุ่งพีคที่สุด แล้วแทรกโฆษณาเข้าไปทันที

ยกตัวอย่างเช่นหากใครกำลังดูวิดีโอสุดตื่นเต้นจากครีเอเตอร์ช่องโปรด อาจจะเป็นฉากที่คู่รักคนดังขอแต่งงานกัน วินาทีที่ทุกคนรอคอย แต่ทันใดนั้น โฆษณาก็จะแสดงขึ้นมาทันที สมกับชื่อฟีเจอร์ที่ YouTube ตั้งให้เรียกว่า "พีคพอยต์" (Peak Points)

สำหรับนักการตลาด ฟีเจอร์นี้เหมือนฝันที่เป็นจริง เพราะจะสามารถจับช่วงเวลาที่ผู้ชมอารมณ์พุ่งขึ้นที่สุด ทำให้โฆษณามีโอกาสถูกจดจำมากขึ้น และแม้ฟีเจอร์นี้จะคล้ายกับกลยุทธ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบอิงอารมณ์ (emotion based targeting) ที่ออกแบบให้โฆษณามีเนื้อหาสอดคล้องกับอารมณ์ของวิดีโอ แต่ในมุมของผู้ชม หลายคนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดได้ เพราะในเวลาที่กำลังอินกับเนื้อหาของวิดีโอที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กลับต้องอารมณ์สะดุดด้วยโฆษณาที่อยากจะกดข้ามไปไว ๆ เพื่อชมวิดีโอต่อ

***จับอารมณ์ ด้วยขุมพลัง Gemini AI

ฟีเจอร์เพื่อการโฆษณาใหม่ล่าสุดจาก YouTube อย่าง Peak Points นั้นจะใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนจากการนับปริมาณการเปิดคลิกชมวิดีโอเป็นทราฟฟิกการใช้งาน มาเป็นการยึดอารมณ์ในการชมวิดีโอเป็นทราฟฟิกแบบใหม่ของโฆษณา ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถตัดเข้าโฆษณาในช่วงที่วิดีโอกำลังแสดงฉากลุ้น หรือฉากพีคได้ในทันทีแบบไม่ต้องมีมนุษย์คอยติดตามชม



ข้อมูลจาก YouTube ชี้ว่าขุมพลัง Gemini AI ของ Google สามารถวิเคราะห์วิดีโอได้แบบเฟรมต่อเฟรม โดย AI จะจับช่วงเวลา "พีคโมเมนต์" ของอารมณ์ผู้ชม เช่น ช่วงตลกสุดขีด หรือ ซีนซึ้งกินใจ โดยทันทีที่กราฟเอนเกจเมนต์พุ่งสูงสุด ระบบจะแนะเวลาเสียบโฆษณาในช่วง “หลังพีคหนึ่งจังหวะ” แบบแม่นยำ


ฟีเจอร์นี้มีเหตุผลเชิงธุรกิจแฝงอยู่ เนื่องจาก emotion based targeting นั้นมีงานวิจัยระบุว่าเมื่อสมองอยู่ในภาวะอารมณ์เข้มข้น การจดจำแบรนด์จะพุ่งขึ้นอีก เท่าตัว ดังนั้นการยิงโฆษณาในตอนหัวใจผู้ชมเต้นแรงที่สุดย่อมเป็นความฝันของนักการตลาด ซึ่งในมุมมองผู้ชม แม้โฆษณาอาจฝังในความทรงจำได้จริง แต่อีกด้าน เส้นบางเฉียบระหว่างการสร้างประสบการณ์ และการรบกวนประสบการณ์นั้นถือเป็นประเด็นที่ร้อนแรงขึ้นทุกวันในปัจจุบัน

คำถามใหญ่คือ YouTube จะต้องรักษาสมดุลนี้ให้ได้ ซึ่งไม่เพียง Peak Points แต่ YouTube ยังสร้างโฆษณาที่ผู้ชมวิดีโอสามารถช็อปปิ้งได้ทันที โดยเปิดตัวในชื่อ Shoppable Product Feed ซึ่งผู้ชมสามารถเลื่อนดูสินค้า และกดซื้อได้แบบ Picture in Ad เรียกว่าไม่ต้องออกจากวิดีโอ ก็สามารถหยิบของที่ต้องการซื้อใส่ตระกร้าได้เลย

***วงการคลิปวิดีโอเข้ายุคใหม่

สิ่งที่ YouTube เปิดตัวใหม่นี้แสดงถึงอนาคตแพลตฟอร์มวิดีโอที่กำลังจะไม่เหมือนเดิม ทั้งการใช้ AI วิเคราะห์อารมณ์การชมวิดีโอแบบเรียลไทม์ รวมถึง Ad Experience หรือประสบการณ์การชมโฆษณาที่จะแทรกหลังโมเมนต์พีค และพฤติกรรมการช็อปจากหน้าวิดีโอที่ชม ซึ่งเหล่าครีเอเตอร์จะต้องสร้างคอนเทนต์และคอมเมิร์ซให้แนบเนียนกว่าเดิม |ขณะที่แพลตฟอร์มเองก็จะต้องชัดเจนเรื่องความโปร่งใสของอัลกอริทึมให้มากขึ้นด้วย

อนาคต Creator อาจจะต้องออกแบบคลิปวิดีโอให้มี “จังหวะหยุดขายของ” แบบละครหลังข่าว?
ที่สุดแล้ว Peak Points คือสัญญาณว่าข้อมูลพฤติกรรมการชมและ AI กำลังนิยาม “ตำแหน่งทอง” ใหม่ของโฆษณาออนไลน์ และยังท้าทายคนทำการตลาด ที่จะต้อง "ขายของให้ได้" โดยไม่ทำลายประสบการณ์ผู้ชมวิดีโอที่กำลังอินกับฉากเข้าด้ายเข้าเข็ม


กำลังโหลดความคิดเห็น