xs
xsm
sm
md
lg

"อุทยานฯ แก่งกระจาน" สั่งเอาผิดกลุ่มลักลอบเข้าเขตหวงห้าม ไปเที่ยว "เขาพระอินทร์" ฝั่งเมียนมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



อุทยานฯ แก่งกระจานสั่งดำเนินคดีกลุ่มลักลอบพานักท่องเที่ยวเข้าเขตหวงห้ามข้ามแดนเมียนมา บริเวณสันอ่างเก็บน้ำบ้านป่าแดง ไปยังเขาพระอินทร์ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ย้ำเป็นความผิดร้ายแรง มีบทลงโทษทั้งจำและปรับ

วันนี้ (18 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีมีรายงานการลักลอบนำนักท่องเที่ยวเดินป่าเข้าพื้นที่หวงห้ามของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับการร้องเรียนผ่านช่องทางเฟซบุ๊กจากผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนามว่ามีผู้จัดทริปนำนักท่องเที่ยวเดินป่าไปยังเขาพระอินทร์ในฝั่งประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 2568 โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งเป็นเขตหวงห้าม เส้นทางที่ใช้ในการลักลอบเข้าพื้นที่เริ่มจากสันอ่างเก็บน้ำบ้านป่าแดง ไปทางด้านหลังอ่างเก็บน้ำ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงชายแดนประเทศเมียนมา จากนั้นเดินต่อไปฝั่งประเทศเมียนมาอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จนถึงเขาพระอินทร์

ชุดปฏิบัติการพิเศษประกอบด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน นำโดยนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายฉลอง ทองสงฆ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจและสายตรวจส่วนกลาง เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอแก่งกระจาน นำโดยนายคณิน ทองก้อน ปลัดอำเภอแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ทหารจาก ฉก.ทัพพระยาเสือ นำโดย จ.ส.อ.อุกฤษฏ์กานต์ อินต๊ะรัตน์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 1 นำโดย ร.อ.อดิศร นารมย์ และ ร.ท.สิทธิชัย มาลี ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บริเวณเส้นทางเดินป่าหลังอ่างเก็บน้ำบ้านป่าแดง ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 16-17 พ.ค. 2568

จากการสอบสวนและบันทึกถ้อยคำ พบผู้นำทางชาวบ้านสองราย คือ นายเฮ้ใย่ และนายสมบูรณ์ ได้รับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างในการนำทางนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ดังกล่าว โดยทั้งคู่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ปรับทางวินัย นอกจากนี้ ยังมีชาวกระเหรี่ยงอีกสองราย ให้การรับสารภาพว่าได้เดินป่าไปเที่ยวเขาพระอินทร์ที่ประเทศเมียนมาจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้จัดทริปท่องเที่ยว เป็นเพียงคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทาง พร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ

อีกด้านหนึ่ง คณะเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อนายโตโต้ (โตโต้ ธิระกร) ซึ่งมีประกาศในเฟซบุ๊กรับจัดทริปพานักท่องเที่ยวไปเดินป่าเขาพระอินทร์ในช่วงเวลาดังกล่าว นายโตโต้ยอมรับว่ามีการประกาศจัดทริปจริง แต่ไม่ได้พานักท่องเที่ยวไปจริง เนื่องจากมีผู้สมัครไม่ถึงจำนวนที่กำหนด จึงได้ยกเลิกทริปดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่าการจัดทริปท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้

จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่ามีผู้จัดทริปหลักคือนายอาลี (สงวนนามสกุล) ซึ่งได้นำนักท่องเที่ยวรวม 7 คนเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามและข้ามแดนไปยังเขาพระอินทร์ในประเทศเมียนมาโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมาย รายชื่อนักท่องเที่ยวที่ร่วมทริปดังกล่าวรวม 8 คน (รวมนายอาลี) ประกอบด้วย นายอาลี, Prasit, Ken, Tiwakorn, Lux และอีก 3 รายที่ไม่ทราบชื่อ ตามภาพถ่ายหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (6) ฐาน "เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์" ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 20 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ฐานเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และมาตรา 18 ฐานไม่ยื่นรายการและผ่านการ

นายมงคลกล่าวเน้นย้ำว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขอเตือนประชาชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ตระหนักว่า การนำนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย เป็นความผิดร้ายแรงที่มีบทลงโทษทั้งจำคุกและปรับ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศและยังเป็นเขตชายแดนระหว่างประเทศ การลักลอบเข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและความมั่นคงของประเทศ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงจะเข้มงวดในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น