xs
xsm
sm
md
lg

หนี้สินล้นตัว!มูดีส์ปรับลดความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ สูญเสียเครดิตเรตติ้งAAAหนแรกตั้งแต่1917

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



มูดีส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จากระดับสมบูรณ์แบบ AAA อ้างอิงความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้คงเครดิตเรตติ้งของประเทศแห่งนี้ ไว้ที่ระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาตั้งแต่ปี 1917

ความเคลื่อนไหวของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ก่อตั้งมานาน 116 ปี เป็นไปในทิศทางเดียวกับสถาบันคู่แข่งอย่าง ฟิตช์ เรตติ้ง ที่ปรับลดอันดับความเชื่อถือถือของสหรัฐ จาก AAA เหลือ AA+ ในเดือนสิงหาคม 2023 และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ปรับลดจาก AAA เหลือ AA+ ในเดือนสิงหาคม 2011

ถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยมูดีส์ในวันศุกร์(16พ.ค.) ระบุว่าการลดลงสู่ AA+ "สะท้อนถึงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นมาตลอดกว่า 1 ทศวรรษ และอัตราการชำระดอกเบี้ยดีดตัวขึ้นสู่ระดับที่สูงอย่างมากเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศที่มีเครดิตเรตติ้งพอๆกัน"

สถาบันแห่งนี้เน้นว่ารัฐบาลสหรัฐฯและสภาคองเกรสชุดแล้วชุดเล่า ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ เกี่ยวกับมาตรการต่างๆในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเดิมๆของตัวเลขขาดดุลงบประมาณมโหฬารในแต่ละปี และต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม มูดีส์ เน้นว่าสหรัฐฯยังรักษาไว้ซึ่งความเข้มแข็งเป็นพิเศษทางเครดิต โดยอ้างถึงขนาดและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และบทบาทของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนถึงความเป็นไปได้ของการผิดนัดชำระหนี้อย่งเร็วที่สุดในเดือนสิงหาคม พร้อมเรียกร้องเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ ข้อจำกัดทางกฎหมายที่กำหนดว่ารัฐบาลกลางจะสามารถกู้หนี้ยืมสินได้มากแค่ไหน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหมดเงินสำหรับสำรองค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง

เพดานหนี้ของสหรัฐฯแตะระดับ 36.1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ครั้งที่ตัวเลขนี้แตะระดับดังกล่าว รัฐบาลจะถูกห้ามตามกฎหมายสำหรับกู้เพิ่มเติมเพื่อจ่ายหนี้ตามพันธะต่างๆ และปัจจุบันตัวเลขหนี้สาธารณะโดยรวมของอเมริกาพุ่งเกิน 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กระทรวงการคลังสหรัฐฯหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยการใช้สิ่งที่เรียกว่า "มาตรการพิเศษ" ส่วนใหญ่เป็นการหลบหลีกทางบัญชีอย่างเช่นระงับเงินสนับสนุนที่ป้อนแก่กองทุนเกษียณอายุของลูกจ้างรัฐบาลกลาง เพื่อให้ยังสามารถทำตามพันธะทางการเงินได้ต่อไป

สมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ 3 รอบ ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน อ้างว่าเพดานนี้ควรถูกลบทิ้งโดยสิ้นเชิง โดยบอกว่ามันไม่มีความสำคัญใดๆหากต้องมีการปรับเพิ่มเป็นประจำ เขาชี้ด้วยว่าแนวคิดของเพดานหนี้ "ไม่ได้มีความหมายใดๆเลย ยกเว้นในทางจิตวิทยา"

ในความเห็นเกี่ยวกับการปับลดเครดิตเรตดิ่ง ทาง คุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในวันศุกร์(16พ.ค.) ตั้งคำถามว่าถ้า มูดีส์ มีความน่าเชื่อถือจริง แล้วทำไมสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้ ถึงปิดปากเงียบมาตลอด ต่อหายนะทางการเงินที่เกิดขึ้นมาในช่วง 4 ปีก่อนหน้านี้ พร้อมอ้างว่ารัฐบาลทรัมป์ในปัจจุบันำกลังจัดการกับความยุ่งเหยิงที่ทิ้งไว้โดยรัฐบาลชุดก่อน

สตีเฟน มัวร์ อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสของทรัมป์และนักเศรษฐศาสตร์ที่มูลนิธิเฮอริเทจ เรียกการเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า “น่าตกใจ” พร้อมถามกลับไปยังมูดีส์ว่า หากพันธบัตรรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯไม่ใช่สินทรัพย์ที่ได้ A สามตัว แล้วอะไรล่ะที่ถือเป็นสินทรัพย์ประเภท AAA

(ที่มา:อาร์ทีนิวส์/อัลจาซีราห์)
กำลังโหลดความคิดเห็น