xs
xsm
sm
md
lg

DSI พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยค้น 7 พื้นที่เป้าหมายคดีตึก สตง.ถล่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ในวันนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประชุมเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ในกรุงเทพฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย

จุดที่ 1 บริษัทปูน เลขที่ 46/15 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม รามอินทรา

จุดที่ 2 บริษัทปูน (หน่วยการผลิตคลองตัน) เลขที่ 980 ถนนเพชรพระราม (คลองตัน) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

จุดที่ 3 บริษัทปูน (หน่วยการผลิตพระราม 9 ศูนย์การวิจัย) เลขที่ 312/4 ซอยพระราม 9 (21) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

จุดที่ 4 บริษัทปูน (สาขาบางพลัด) เลขที่ 21 ถนนสิรินธร แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด

จุดที่ 5 บริษัทปูน (สาขาพระราม 5) เลขที่ 37 ถนนนครอินทร์ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

จุดที่ 6 บริษัทปูน หน่วยผลิตคอนกรีตรัตนาธิเบศร์ 2 ตั้งอยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 4149 เลขที่ดิน 11/440 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

จุดที่ 7 บริษัท ปูน หน่วยผลิตคอนกรีตรัตนาธิเบศร์ 3 ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 140662 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

ภายหลังจากได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญารัชดาภิเษกออกหมายค้นและจัดชุด พนักงานสอบสวน 7 ชุด ร่วมบูรณาการกันทำการตรวจค้นพยานเอกสาร พยานวัตถุ สอบสวนปากคำพยานบุคคล ยึดและอายัดเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ตรวจสอบ ทั้ง 7 จุด โดยแพลนท์ปูน 7 แพลนท์ เป็นสถานที่ผลิตและจำหน่ายปูนเพื่อการก่อสร้างตึก สตง. และเกี่ยวข้องกับ บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า จากการรวบรวมหลักฐานเอกสารร่วมกัน มีเหตุสงสัยว่า ปูนที่ใช้ก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ถล่ม ใช่ปูนที่ส่งมาจากบริษัททั้ง 7 จุดนี้หรือไม่ จึงเข้าตรวจค้นให้แน่ชัด โดยจะเป็นการตรวจย้อนหลัง การจัดส่งปูนให้ก่อสร้างเมื่อปี 2564 เพื่อดูว่าเป็นปูนที่สั่งตรงกับบริษัท หรือมีนายหน้าหรือไม่ มีล็อตการผลิตและหน่วยการส่งปูนให้กันมากเท่าใด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างกระจายเข้าค้น ซึ่งจะมีการสรุปภาพรวมอีกครั้ง

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ดีเอสไอยังได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ นายบินลิง วู นายทุนชาวจีนคนสำคัญ ซึ่งเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือนอมินี ด้วย