ศาลอนุมัติออกหมายจับ "เปรมชัย กรรณสูต" อดีตประธานกรรมการอิตาเลียนไทยฯ และบุคคล 3 กลุ่ม บริษัทผู้ออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับจ้างก่อสร้าง อาคาร สตง. แห่งใหม่ รวม 17 ราย ฐานไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ฯ มาตรา 224 และ 238 หลังพนักงานสอบสวนขอออกหมายจับเมื่อ 2 วันก่อน
วันนี้ (15 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 17 ราย ในคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมาใน 3 กลุ่ม ได้แก่ บริษัทเอกชน คือ บริษัทกิจการร่วมค้า กลุ่มผู้รับเหมาควบคุมงาน และกลุ่มวิศวกรที่เซ็นรับรอง ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว ขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ในฐานความผิดตามมาตรา 227 และมาตรา 238 ผู้ใดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอน อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
สืบเนื่องมาจาก พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง และมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคาร ไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง. ว่ามีมาตรฐานตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐานที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีตหรือไม่ ผลปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีต ไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC ส่วนการตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคาร สตง. ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่เป็นไปตามแบบเช่นกัน และจากการตรวจลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไปในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่าตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน
จากหลักฐานข้างต้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิด ได้แก่ กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ คือ บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง คือ กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 รายในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ตกลงยินยอมรับผิดร่วมกัน และ แทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี โดย 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย
กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และผู้มีอำนาจกระทำการแทนกินการร่วมค้า ITD-CREC รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ค้นพบแล้วจำนวน 89 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย สูญหาย 11 ราย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว ฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 และ 238
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า หนึ่งในบุคคลที่ถูกออกหมายจับ คือ นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ อีกด้วย
ก่อนหน้านี้นายเปรมชัยเคยถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ชดใช้เงิน 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 ในคดีล่าสัตว์ป่า หรือคดีเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แต่กรมราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 และมีมติเห็นควรไม่ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) เนื่องจากบริเวณข้อเท้าเคยถูกคว้านเนื้อที่ตายจากอาการเบาหวานลงขา แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติ กระทั่งครบกำหนดโทษเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566