รัฐบาลเริ่มตื่นตัว ยื่น 5 ข้อเสนอเจรจาสหรัฐ นายกฯ ปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ภายหลังสหรัฐอเมริกาและจีนเริ่มเจรจากันในเรื่องมาตรการทางภาษีลงตัว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลไทยชุดนี้จะเริ่มทำงานได้เมื่อไหร เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวนรถไฟทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ ปรากฎว่าได้เริ่มเห็นการทำงานของรัฐบาลเสียทีผ่านการยื่น 5 ข้อเสนอให้กับสหรัฐอเมริกาพิจารณา
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ผ่านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึง นายเจมสัน กรีเออร์ ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) โดยเป็นเนื้อหาที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานนโยบายการค้า และผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยการเจรจา 5 เสาหลัก ได้แก่ 1.ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย- สหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูป และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล (Data Center and AI Industry) และการพิจารณาดำเนินการลดอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี 2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์บริการ โดยปลัดกระทรวงพลังงานพร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด ได้เดินทางไปรัฐอลาสกา เพื่อหารือกับผู้ว่าการรัฐอลาสกา รวมถึงบริษัทด้านพลังงานของสหรัฐฯ เพื่อหาโอกาสและเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย – สหรัฐฯ
3.การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย อาทิ ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น 4.การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งไทยได้เริ่มการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแล้วอย่างจริงจัง โดยเราได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งเจ้าที่กรมขนส่งสหรัฐอเมริกามีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง 5.ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยขณะนี้นางนลินี ทวิสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย รวมถึงภาคเอกชนชั้นนำของไทย อยู่ระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมงาน Select USA Investment Summit 2025 เพื่อไปดูลู่ทางการลงทุนในสหรัฐฯ ด้วย
"นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีเป็นบวกต่อข้อเสนอของไทย โดยได้พูดถึงประเทศไทย ในการขึ้นเวที Saudi Arabia Investment Forum เมื่อวันที่ 13 พ.ค.68 โดยจากการที่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ มีท่าทีเป็นบวก และกล่าวว่าเป็นข้อเสนอที่ดี แบบเดียวกับที่พูดถึงข้อเสนอของประเทศอินโดนีเซีย และไต้หวัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสัญญาณบวกจากระดับนโยบายของ สหรัฐฯ และคาดได้ว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในระดับ working level ให้พิจารณาในรายละเอียดต่อไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณในการดำเนินการต่อไป สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ พิจารณาให้ความสำคัญ และพร้อมที่จะหารือเพื่อหาข้อยุติในส่วนของมาตรการภาษีต่างตอบแทน และจะ นำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ต่อไป" นายพิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไทยนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าอาจต้องการปรับแผนการทำงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะโครงการแจกเงินหมื่นในเฟสต่อไป
"จะมีการปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายเรื่อง และบางเรื่องก็ทำไปแล้ว และก็จะทบทวนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย" นายกฯ ระบุ