วังเครมลินไม่ได้ใส่ชื่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในรายชื่อบุคคลที่จะเข้าร่วมโต๊ะเจรจากับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในตุรกีในวันพฤหัสบดี(15พ.ค.) แถมยังส่งคณะทำงานระดับล่างๆ เข้าร่วมการเจรจาโดยตรงระหว่างมอสโกกับเคียฟ เกี่ยวกับวิกฤตความขัดแย้ง เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีแทน
เซเลนสกี ท้า ปูติน ให้พบปะเขาเป็นการส่วนตัว ณ เวทีเจรจา ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเร่งเร้าผู้นำวังเครมลินให้เข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยตนเอง โดยเสนอว่าเขาจะเดินทางไปเข้าร่วมด้วย หาก ปูติน ปรากฏตัว ณ เวทีเจรจา
การเจรจาในอิสตันบูล จะถือเป็นการพูดคุยสันติภาพโดยตรงระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเจรจากันในช่วงสัปดาห์แรกๆตามหลังความขัดแย้งปะทุขึ้น แต่ก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ
หลายวันหลังจากไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่าปูตินจะเดินทางไปด้วยหรือไม่ ล่าสุดในช่วงเย็นวันพุธ(14พ.ค.) วังเครมลินได้เปิดเผยชื่อคณะผู้แทนเจรจา ซึ่งจะนำโดย วลาดิมีร์ เมดินสกี ผู้ช่วยสายแข็งกร้าวของปูติน และอดีตรัฐมนตรีวัฒนธรรมที่เคยมีส่วนร่วมในการเจรจาเมื่อปี 2022
ทั้ง ปูติน, เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศของวังเครมลิน ไม่ปรากฏรายชื่อในคณะผู้แทนเจรจาครั้งนี้
เซเลนสกี ขู่มาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า การไม่เข้าร่วมของปูติน จะเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าผู้นำรัสเซียไม่ใส่ใจในสันติภาพอย่างแท้จริง "ผมกำลังรอดูว่าฝ่ายรัสเซียใครจะมาเข้าร่วม เมื่อนั้นผมจะตัดสินใจก้าวย่างถัดไปสำหรับยูเครน"
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ(14พ.ค.) ทรัมป์ เสนอตัวเดินทางไปยังตุรกี ถ้า ปูติน ปรากฏตัว ณ เวทีเจรจาด้วย ในขณะที่คาดหมายว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะอยู่ในอิสตันบูลในวันศุกร์(16พ.ค) ในส่วนหนึ่งของการเจรจา
นอกเหนือจาก เมดินสกี แล้ว รายชื่อคณะผู้แทนเจรจาคนอื่นๆของรัสเซีย ประกอบไปด้วย มิฮาอิล กาลูซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, อเล็กซานเดอร์ ฟูมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ อิกอร์ คอสตีวคอฟ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองทหารของรัสเซีย
เมื่อสัปดาห์ที่้แล้ว ปูติน เสนอเจรจาโดยตรง และตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วงจากนานาชาติ ในนั้นรวมถึงพันธมิตรบางชาติ ให้พบปะกับ เซเลนสกี
ทรัมป์ นำเสนอไอเดียของเป็นคนกลาง ถ้า ปูติน เข้าร่วมโต๊ะเจรจา "ผมไม่รู้ว่าปูตินจะไปที่นั่นหรือไม่ ถ้าผมไม่ไปที่นั่น" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างทัวร์ตะวันออกกลาง "ผมรู้ว่าเขาอยากผมพบที่นั่น และมันมีความเป็นไปได้ ถ้าเราสามารถยุติสงคราม ผมจะคิดทบทวนในเรื่องนี้"
ผู้นำสหรัฐฯบอกต่อว่าตารางการเดินทางของเขาอัดแน่น แต่ "มันจะไม่มีความหมายใดๆ ถ้าผมไม่สามารถปกป้องชีวิตผู้คนจำนวนมาก"
เซเลนสกี ระบุในสัปดาห์นี้ว่า การที่ ปูติน เมินเข้าร่วมโต๊ะเจรจา จะเป็นการส่งสัญญาณว่าผู้นำรัสเซียไม่มีความตั้งใจแสวงหาสันติภาพ และควรต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากตะวันตก และตะวันตกจำเป็นต้องมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่เคียฟ
"นี่คือสงครามของเขา" เซเลนสกีกล่าวในวันอังคาร(13พ.ค.) "เพราะฉะนั้น มันควรเป็นการเจรจากับเขา"
ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมกับประกาศกร้าวว่าจะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเขาเริ่มรู้สึกผิดหวังทั้งกับยูเครนและรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกรณีที่ปราศจากความคืบหน้าใดๆ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มอสโก ปฏิเสธเสียงเรียกร้องหลายต่อหลายครั้ง ที่ขอให้หยุดยิงเบื้องต้นเป็นเวลา 30 วัน ในขณะที่มันได้รับการสนับสนุนจากเคียฟ
แม้มีแนวโน้มของการเจรจาโดยตรง แต่จุดยืนทั้ง 2 ฝ่ายเกี่ยวกับแนวทางยุติการสู้รบยังคงแตกต่างกันอย่างมาก และทั้งยูเครนกับรัสเซีย แทบไม่ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจประนีประนอมใดๆ
(ที่มา:เอเอฟพี)