เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) และแนวร่วมชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซีย ย่านสาทร ยื่นหนังสือจี้ "อันวาร์ อิบราฮิม" นายกฯ มาเลเซีย ทบทวนตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษา ชี้มีคดี 112 ติดตัว และถูกไต่สวนกรณีไม่จำคุกจริง หวั่นใช้เป็นช่องทางหลบหนี
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่อาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ พร้อมด้วย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และนายใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม ยื่นหนังสือถึงนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเซียน ให้ทบทวนการแต่งตั้ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย โดยมีตัวแทนสถานทูตมาเลเซียลงมารับหนังสือ ใช้เวลา 15 วินาที
เนื้อหาในหนังสือระบุว่า ตามที่นายอันวาร์ ในฐานะประธานอาเชียน ได้แต่งตั้งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเชียน ทั้งที่ปัจจุบันนายทักษิณ เป็นจำเลยคดีความผิดอาญา มาตรา 112 ในประเทศไทย ตามกระบวนการยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นระบบนิติรัฐที่แต่ละประเทศบังคับใช้ต่อพลเมืองในประเทศของตนให้มีความยุติธรรมโดยเสมอภาคกัน
รวมทั้งนายทักษิณ เคยให้การรับสารภาพและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยคดีถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่ออยู่ระหว่างขั้นตอนการจำคุกตามคำพิพากษา ก็ถูกประชาชนคนไทยมีคำถามกับสิ่งที่นายทักษิณ อ้างว่าป่วยวิกฤตและไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว โดยที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
มาบัดนี้ศาลฎีกาแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นองค์ประกอบในกลไกหลักในการปกครองประเทศไทย ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่าการบังคับโทษนายทักษิณ เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น นายทักษิณ ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเชียนที่นายอันวาร์แต่งตั้ง จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศไทย และถูกดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากศาลไทยซึ่งอาจจะนำมาสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด หรือแม้แต่การลงโทษนายทักษิณ อีกครั้งหนึ่ง
คปท. ศปปส. กองทัพธรรม ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่รวมตัวกันชุมนุมเพื่อรักษากระบวนการยุติธรรม รักษาประเทศชาติ ในกรณีนายทักษิณ และผู้สมรู้ร่วมคิดได้ร่วมกันทำลายล้างระบบยุติธรรมไทย เพื่อช่วยเหลือนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ไม่ให้จำคุกจริงตามกระบวนการกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งที่มีคำพิพากษาของศาลและตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงที่สุดแล้ว จึงเกรงว่า ด้วยตำแหน่งที่นายอันวาร์แต่งตั้งให้นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเชียน จะกลายเป็นการเงื่อนไขให้เป็นข้ออ้างในการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ แล้วไม่กลับมาสู่การพิสูจน์ความจริง เหมือนที่นายทักษิณเคยกระทำมาแล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นการใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มาบดบังกระบวนการยุติธรรมของไทย อันเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะปรากฏว่านายทักษิณ ได้ใช้สิทธิในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเชียน ขออนุญาตศาลไทยเดินทางออกนอกประเทศมาแล้ว
"เพื่อให้เกิดมิตรไมตรีของสองประเทศอันมีมาช้านานาน ในนามประชาชนคนไทย จึงใคร่ขอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้ทบทวนการแต่งตั้งให้นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน เพื่อธํารงไว้ซึ่งสันติภาพเสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมือง ของประเทศอาเซียน และให้กระบวนการยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยได้มีความศักสิทธิ์ เหมือนที่ทุกประเทศมีกระบวนการยุติธรรมในประเทศของตนเอง" หนังสือร้องเรียน ระบุ
นายพิชิต กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงนายอันวาร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ในฐานะคนไทยสื่อสารไปยังประธานอาเซียนว่า การแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาอาจกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะขณะนี้นายทักษิณถูกเป็นจำเลยในศาลอาญา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการไต่สวนของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีมีหมายขังแต่ไม่อยู่ในเรือนจำเลย เพราะฉะนั้นสองคดีเป็นกระบวนการแห่งกฎหมายเมืองไทย เกรงว่าการที่นายทักษิณเป็นประธานอาเซียน จะกลายเป็นเงื่อนไขให้นายทักษิณหลบหนีคดีได้ จึงแจ้งไปยังนายอันวาร์ในฐานะประธานอาเซียนทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณ ผ่านสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
อนึ่ง นายอันวาร์ประกาศแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยือนประเทศมาเลเซีย ต่อมาวันที่ 26 ธ.ค. 2567 นายทักษิณได้พบกับนายอันวาร์บนเรือยอร์ชกลางทะเลระหว่างแนวเขตประเทศไทย จ.สตูล กับรัฐเคดะห์ ประเทศมาเลเซีย และเคยใช้เป็นหนึ่งเหตุผลในการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งศาลอาญาเคยอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียมาแล้ว 2 ครั้ง โดยให้วางหลักประกัน 5 ล้านบาท และเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย ให้มารายงานตัวภายใน 3 วัน