ราคาน้ำมันขยับขึ้นมากกว่า 1.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร(13พ.ค.) ยังคงได้แรงหนุนจากการปรับลดเพดานภาษีชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯกับจีน และรายงานเงินเฟ้อที่ดีเกินคาดหมายของอเมริกา ปัจจัยเหล่านี้พยุงวอลล์สตรีทปิผสมผสาน ส่วนทองคำปรับลดจากแรงขายทำกำไร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจาก 1 วันก่อนหน้าหนี้ หลังสหรัฐฯและจีนเห็นพ้องลดรีดภาษีกันและกันลงอย่างมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน ความเคลื่อนไหวที่ก่อความหวังว่า 2 ชาติผู้บริโภคน้ำมันมากที่สุดในโลก จะยุติสงครามการค้าอย่างถาวร หลังมันโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่จะกระทบต่ออุปสงค์ทางพลังงาน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันอังคาร(13พ.ค.) โดยเอสแอนด์พี 500 และ แนสแดค ปรับขึ้น 2 วันติด หลังตัวเลขเงินเฟ้อที่เบาบางเกินคาด เพิ่มมุมมองในแง่บวกแก่นักลงทุน หลังจากมีความคึกคักอยู่ก่อนแล้วจากคำแถลงระงับรีดภาษีระหว่างอเมริกากับจีน
ดาวโจนส์ ลดลง 269.76 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,140.43 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 42.36 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,886.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 301.74 จุด (1.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,010.08 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานในวันอังคาร(13พ.ค.) ดัชนีราคาผู้บีโภคเพิ่มขึ้น 2.3% ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนเมษายน ถือเป็นการดีดตัวขึ้นในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบ 4 ปี กระตุ้นให้บรรดาบริษัทชั้นนำในวอลล์สตรีทอย่างเช่นเจพีมอร์แกน เชสและบาร์เคลย์ส ปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอเมริกาถดถอยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ตัวเลขเงินเฟ้อที่เบาบางลงมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเสียงตอบรับด้วยความโล่งใจจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาตั้งแต่ปรับลดดอกเบี้ยหนสุดท้ายในเดือนธันวาคม ทั้งนี้เฟดระงับปรับลดดอกเบี้ยท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าอาจจุดชนวนเงินเฟ้อ
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(13พ.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการช้อนซื้อของนักลงทุน หลังจากมีแรงเทขายอย่างหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 19.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6 % ปิดที่ 3,247.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)