นักวิเคราะห์ชี้ข้อตกลงเจนีวา สัมพันธ์จีน-อเมริกา ‘รีเซ็ต’ แค่ราคาคุยทรัมป์

เอเจนซีส์ – ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมที่เจนีวาตกลงกันว่า จีนจะเปิดกว้างมากขึ้น หลังจากที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดหนักจากสงครามภาษีศุลกากร

ภายหลังการหารือที่เจนีวาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงว่า ทั้งสองฝ่ายต่างเคารพกันและกันในระหว่างเจรจา และเห็นพ้องว่า ไม่ต้องการแยกขาดจากกัน

ราคาหุ้นในวอลล์สตรีททะยานขึ้นทันทีหลังการแถลงข่าวดังกล่าว โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 3.2% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 2.6% และดัชนีแนสแด็กพุ่งขึ้น 4%

ทรัมป์ยังบอกอีกว่า การหารือที่เจนีวาเต็มไปด้วยมิตรภาพ และอเมริกาไม่ต้องการทำร้ายจีน

อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวซึ่งอ้างตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่า ภาษีศุลกากรจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายล้านล้านดอลลาร์นั้น ดูเหมือนกลับลำ 360 องศา โดยบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเปิดตลาด และสำทับว่า จะเป็นการดีมากสำหรับธุรกิจของอเมริกาถ้าสามารถเข้าถึงและแข่งขันในตลาดจีนได้

ในระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจหันไปเล่นงานสหภาพยุโรป ที่ “น่ารังเกียจ” กว่าจีนแทน และยังใช้วาทกรรมเหมือนที่เคยใช้กับจีนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า “เราถือไพ่เหนือกว่า” และ “พวกเขาปฏิบัติต่อเราอย่างไม่เป็นธรรม”

การลดภาษีศุลกากร 90 วันคราวนี้ จะทำให้สินค้าจีนเข้าอเมริกาส่วนใหญ่ที่ถูกทรัมป์ประกาศรีดภาษีในอัตรา 145% นั้น ลงมาเหลือ 30% ส่วนสินค้าอเมริกันเข้าจีนซึ่งถูกปักกิ่งประกาศตอบโต้เก็บภาษีในอัตรา 125% ก็จะลดลงเหลือ 10% ทั้งนี้ อัตราภาษีก่อนลดที่สูงลิบลิ่วขนาดนี้ เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) หนึ่งในคณะผู้เจรจาของฝ่ายสหรัฐฯที่เจนีวา ยอมรับว่า เทียบได้กับการที่ประเทศทั้งสองประกาศคว่ำบาตรทางการค้าระหว่างกันนั่นเอง

นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายยังต่างระบุว่า ทั้งสองประเทศจะยังคงส่งเสริมการดำเนินการด้วยวิธีที่เปิดกว้าง การติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง การร่วมมือและเคารพกันและกัน

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงที่กรุงปักกิ่งว่า ข้อตกลงล่าสุดสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้ผลิตและผู้บริโภคของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเป็นผลประโยชน์ของจีน อเมริกา และทั่วโลก พร้อมแสดงความหวังว่า วอชิงตันจะร่วมมือกับปักกิ่งต่อไปเพื่อแก้ไขแนวทางปฏิบัติที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว ตลอดจนถึงเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

วิลเลียม ซิน ประธานสปริง เมาเทน ผู่ เจียง อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ มองว่า ผลการประชุมออกมาดีเกินกว่าที่ตลาดคาดไว้ และขณะนี้สถานการณ์มีความแน่นอนมากขึ้น ทั้งราคาหุ้นจีนและค่าเงินหยวนมีแนวโน้มดีดขึ้นระยะหนึ่ง

หู สีจิน อดีตบรรณาธิการโกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ชาตินิยมของจีน โพสต์บนแพลจฟอร์มเว่ยปั๋วว่า ข้อตกลงที่เจนีวาถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงการค้าอเมริกา-อังกฤษเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว อเมริกายังคงเรียกเก็บภาษีสินค้าอังกฤษ 10% โดยที่ลอนดอนไม่ได้ขึ้นภาษีตอบโต้

หวัง เหวิน ผู้อำนวยการสถาบันฉงหยางเพื่อการศึกษาด้านการเงินของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในปักกิ่ง ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่เจนีวาเป็นการเจรจาภาษีศุลกากรอเมริกา-จีนที่ประสบความสำเร็จเกินคาด อย่างไรก็ดี เขาตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงที่ออกมาไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างระหว่างสองประเทศ อีกทั้งไม่ได้หมายความว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าวข้อตกลงที่เจนีวา นักวิเคราะห์ของไอเอ็นจีได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเติบโตของจีนปีนี้เป็น 4.7% เนื่องจากมีแนวโน้มว่า จีนจะส่งออกไปยังอเมริกาเพิ่มขึ้น