ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปหนักหน่วงขึ้น ตราหน้าพวกเขาว่า "น่าขยะแขยงกว่าจีน" ในแง่ของแนวทางปฏิบัติทางการค้า ความเห็นซึ่งมีขึ้นหลังจากอเมริกาและปักกิ่งบรรลุข้อตกลงสงบศึกรีดภาษีระหว่างกัน
ในช่วงต้นเดือนเมษายน วอชิงตันกำหนดเพดานภาษี 20% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากอียู และ 25% กับรถยนต์และโลหะนำเข้าทั้งหมด แม้ต่อมา ทรัมป์ แถลงระงับรีดภาษีเป็นเวลา 90 วัน แต่ยังคงบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีพื้นฐาน 10% จนกว่าจะบรรลุข้อตกลง
"สหภาพยุโรปน่าขยะแยงกว่าจีนในหลายๆด้าน" ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์(12พ.ค.) "พวกเขาปฏิบัติกับเราแบบไม่ยุติธรรมอย่างมาก พวกเขาขายรถให้เรา 13 ล้านคัน แต่เราไม่ได้ขายรถให้พวกเขาเลย พวกเขาขายสินค้าทางการเกษตรให้เรา แต่เราแทบไม่ได้ขายให้พวกเขาเลย" ผู้นำสหรัฐฯกล่าวอ้าง พร้อมระบุบอกด้วยว่าอียู "ไล่ฟ้องทุกบริษัทของเรา ทั้งแอปเปิล, กูเกิลและเมตา"
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ คาดการร์ว่าอียูจะยอมอ่อนข้อลงอย่างมาก เนื่องจากสหรัฐฯถือไพ่อยู่ในมือทุกใบ
นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ เน้นย้ำอีกว่าอียูจำเป็นต้องถูกกล่าวโทษ ต่อราคายาที่ต้องสั่งโดยแพทย์หรือเภสัชกร ที่พุ่งสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคเมริกา โดยผู้นำสหรัฐฯกล่าวหาบรัสเซลส์ กดดันอย่างโหดเหี้ยมและไม่ยุติธรรมใส่บรรดาบริษัทยาทั้งหลายให้คงราคาระดับต่ำในยุโรป แต่ปฏิเสธแบกรับสัดส่วนที่ยุติธรรม ในด้านต้นทุนการวิจัยและพัฒนาของบริษัทเหล่านั้น เช่นเดียวกับต้นทุนในด้านอื่นๆ
ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่า อย่างไรก็ตามเวลานี้วอชิงตันเตรียมทำให้สถานการณ์กลับสู่ความเท่าเทียม โดย "ยุโรปจำเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย ส่วนชาวอเมริกาจะจ่ายน้อยลง"
ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากวอชิงตันและปักกิ่งตกลงกันได้ระหว่างเจรจาทางการค้าในเจนีวา ในการยกเลิกหรือระงับมาตรการรีดภาษีเกือบทั้งหมดที่บังคับใช้มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จนกว่าจะมีการพูดคุยหารือเพิ่มเติม
ผลก็คือเพดานภาษีที่สหรัฐฯเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีนจะลดลงเหลือ 30% ส่วนเพดานภาษีที่จีนเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากอเมริกา จะอยู่ที่ 10% เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้แล้วทั้ง 2 ชาติ ยังจะจัดตั้งกลไกปรึกษาหารือทางการค้า และจะทำการพูดคุยกันเพิ่มเติม
ในส่วนของอียู ได้มีความพยายามเจรจาทางการค้าและเจรจาปลดมาตรการรีดภาษีกับสหรัฐฯไปแล้วหลายครั้ง แต่ที่ผ่านๆมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่สามารถผ่าทางตันใดๆ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปนำเสนอรายงานมาตรการตอบโต้ตต่างๆนานา ที่อาจส่งผลกระทบกับสินค้าสหรัฐฯมูลค่า 95,000 ล้านยูโร หากว่าการเจรจาต่อรองล้มเหลว
ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทรัมป์ เตือนอียูว่า "จะก่อความผิดพลาดใหญ่หลวง" หากว่าทำตามคำขู่ดังกล่าว ที่เขาให้คำจำกัดความว่ามีแนวโน้มที่ขัดขวางเป้าหมายของการเจรจา
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)