ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยืนยันว่าพร้อมพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในตุรกีในวันพฤหัสบดี(15พ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกเขาต่อสาธารณะ ให้ตอบรับข้อเสนอเจรจาโดยตรงจากผู้นำเครมลินในทันที
ท่าทีของเซเลนสกี ที่บ่งชี้ถึงความพร้อมพบปะกับปูติน ถือเป็นการต่อยอดสถานการณ์ความคืบหน้าในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากพวกผู้นำยุโรปและเซเลนสกี ส่งเสียงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันจันทร์(12พ.ค.) เป็นต้นไป กระตุ้นให้ ปูติน ยื่นข้อเสนอโต้ตอบกลับมา ขอให้จัดการเจรจาโดยตรงระหว่างยูเครนกับรัสเซียแทน ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆที่รัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022
อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าปูตินมีความตั้งใจจะเข้าร่วมเจรจาด้วยตนเองหรือไม่ ในขณะที่ ปูติน และ เซเลนสกี ไม่ได้พบเจอกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 และไม่เป็นความลับใดๆในกรณีที่ทั้งคู่ต่างปรามาสอีกฝ่าย "ผมจะรอพบปะปูตินในตุรกีในวันพฤหัสบดี เป็นการส่วนตัว" เซเลนสกีเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "ผมหวังว่าคราวนี้ รัสเซีย จะไม่มองหาข้อแก้ตัว"
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้นำยูเครนตอบสนองอย่างระมัดระวัง หลังจากประธานาธิบดีปูติน กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ในยามค่ำคืน ซึ่งตรงกับช่วงเวลาไพรม์ไทม์ในสหรัฐฯ เสนอเจรจาโดยตรงในอิสตันบูล ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม
ข้อเสนอของปูติน มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากบรรดาชาติมหาอำนาจยุโรปยื่นคำขาดระหว่างเยือนกรุงเคียฟในวันเสาร์(10พ.ค.) ขอให้ผู้นำรัสเซียตอบรับข้อเสนอหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข 30 วัน ไม่อย่างนั้นอาจเจอกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่รอบใหม่ จุดยืนที่ทาง คีธ เคลล็อก ทูตพิเศษด้านยูเครนของทรัมป์ ให้การสนับสนุน
ในส่วนของเซเลนสกี ก็บอกเช่นกันว่ายูเครนพร้อมเจรจา ถ้ามอสโกเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ผู้ซึ่งมีอำนาจในการเดินหน้าหรือตัดการสนับสนุนด้านอาวุธอันสำคัญที่วอชิงตันป้อนแก่ยูเครน มีความคิดที่ต่างออกไป โดยเขาเขียนบนทรัสต์โซเชียล กดดันผู้นำยูเครน ตอบรับข้อเสนอเจรจาโดยตรงของปูติน
"ประธานาธิบดีรัสเซียยังไม่ต้องการมีข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน แต่ต้องการพบปะกันในวันพฤหัสบดี ในตุรกี เพื่อเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการหยุดการนองเลือด ยูเครนควรเห็นพ้องกับเรื่องนี้ ในทันที" ทรัมป์ เขียนบนทรัตช์โซเชียล "อย่างน้อยๆพวกเขาก็จะสามารถสรุปได้ว่าข้อตกลงมีความเป็นไปได้หรือไม่ และถ้ามันไม่มีทางเป็นไปได้ พวกผู้นำยุโรปและสหรัฐฯ จะได้รู้ถึงสถานการณ์ทั้งหมด และสามารถดำเนินการไปได้อย่างถูกต้อง"
เคียฟกำลังดิ้นรนปลดล็อคความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ที่พวกเขาได้รับจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อน ส่วน มอสโก มองถึงโอกาสในการได้รับการปลดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่างๆนานา และทำการคบค้ากับชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
ระหว่างกล่าวปราศรัยยามค่ำคืน ปูติน เสนอสิ่งที่เขาเรียกว่า "การเจรจาโดยตรงโดยปราศจากเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ" อย่างไรก็ตามจากนั้นแทบในทันที ยูริ อูชาคอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวังเครมลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่าการเจรจาใดๆต้องคำนึงถึงร่างกรอบการทำงานสันติภาพปี 2022 ที่ถูกทิ้งไปก่อนหน้านี้ รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันในสมรภูมิรบด้วย
ปูติน ยืนยันว่าข้อเสนอของเขาไม่ได้เป็นความพยายามเตะถ่วงหรือปลดคำขาดของบรรดาชาติยุโรปตะวันตกและยูเครน ที่เรียกร้องให้เริ่มหยุดยิงตั้งแต่วันจันทร์(12พ.ค.) ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียชี้ว่าการพูดคุยเกี่ยวกับรากเหง้าของความขัดแย้ง ต้องมาก่อนการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง
ทรัมป์ ผู้ซึ่งเคยบอกว่าต้องการเป็นที่จดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ และสัญญาซ้ำๆว่าจะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว แสดงปฏิกิริยาขานรับคำปราศรัยของปูติน โดยบอกว่ามันอาจเป็น "วันที่ยอดเยี่ยมสำหรับรัสเซียและยูเครน"
แม้ รัสเซีย ไม่รับปากหยุดยิง แต่ เซเลนสกี ยืนยันว่าจะเดินหน้าแผนหยุดยิงของยูเครนต่อไปในวันจันทร์(12พ.ค.) "เรารอการหยุดยิงโดยสมบูรณ์และยั่งยืน เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ มอบพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเจรจาทางการทูต" เขาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
กระนั้น เซเลนนสกี บอกว่าเขายังรอคำตอบจากฝ่ายรัสเซีย และเตือนว่ากองกำลังยูเครนจะตอบโต้อย่างทัดเทียมกัน หากทหารรัสเซียไม่ทำตามข้อเสนอหยุดยิง
(ที่มา:รอยเตอร์)