รอยเตอร์ - อินเดียและปากีสถานกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) หลังยิงตอบโต้กันตลอดคืนโดยต่างโทษว่า อีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน ขณะที่ทรัมป์ประกาศจะหาทางยุติความขัดแย้งเกี่ยวกับแคชเมียร์
ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างครอบครองอาวุธนิวเคลียร์คู่นี้เผชิญหน้าทางทหารกันมา 4 วัน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ โดยต่างยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีสถานที่ตั้งทางทหารของอีกฝ่าย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน
อย่างไรก็ดี ภายหลังการดำเนินการทางการทูตและการกดดันจากอเมริกา อินเดียและปากีสถานตกลงหยุดยิง ทว่า ไม่กี่ชั่วโมงต่อมากลับมีการยิงปืนใหญ่ตอบโต้กันในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งที่เป็นของอินเดีย
ระบบป้องกันภัยทางอากาศดังกึกก้องในหลายเมืองใกล้ชายแดนเมื่อค่ำวันเสาร์ (10 พ.ค.) และไฟฟ้าดับเช่นเดียวกับเมื่อสองคืนก่อนหน้านั้น ต่อมาในช่วงดึก อินเดียกล่าวหาว่า ปากีสถานละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและสั่งให้กองทัพตอบโต้อย่างรุนแรง
ทางด้านปากีสถานยืนยันว่า ตนปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และโทษอินเดียว่า เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เสียงระเบิดและเสียงปืนทั้งสองฝั่งสงบลงในช่วงเช้ามืด ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้อีกครั้งในพื้นที่ส่วนใหญ่ตามแนวชายแดนของอินเดีย
ที่เมืองอมฤตสาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งวิหารทองคำอันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้นับถือศาสนาซิกข์ ประชาชนออกไปใช้ชีวิตตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล ยกย่องผู้นำอินเดียและปากีสถานที่ตกลงหยุดสู้รบ และเสริมว่า จะเพิ่มการค้าขายกับทั้งสองประเทศ รวมถึงจะร่วมมือกับทั้งสองชาติเพื่อหาทางแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับแคชเมียร์
ทั้งนี้ การสู้รบระหว่างอินเดียกับปากีสถานระเบิดขึ้นเมื่อวันพุธ (7 พ.ค.) หรือสองสัปดาห์หลังการโจมตีในเมืองพาฮาลแกมแคว้นแคชเมียร์ฝั่งอินเดียที่มีผู้เสียชีวิต 26 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวฮินดู และอินเดียกล่าวหาว่า ปากีสถานเป็นผู้ให้การสนับสนุน ทว่า อิสลามาบัดยืนกรานปฏิเสธ
เจ้าของร้านค้าคนหนึ่งในอัมฤตสาร์บอกว่า นับจากการสังหารหมู่นักท่องเที่ยวในเมืองพาฮาลแกม ร้านรวงต่างๆ พากันปิดเร็วขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ไร้ความแน่นอน แต่ตอนนี้ตนสบายใจขึ้นอย่างน้อยจากการที่ไม่มีการนองเลือดทั้งฝั่งอินเดียและปากีสถาน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ในปากีสถานเผยว่า มีการยิงกันประปรายเฉพาะที่บิมเบอร์ในแคว้นแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
อินเดียและปากีสถานที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 ทำสงครามกันมา 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งเกิดจากความขัดแย้งในแคชเมียร์
อินเดียซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู และปากีสถานที่เป็นประเทศมุสลิม ต่างปกครองดินแดนแคชเมียร์กันคนละส่วนโดยอ้างว่า ดินแดนทั้งหมดเป็นของตนเอง
อินเดียกล่าวหาปากีสถานก่อความไม่สงบในพื้นที่บางส่วนในแคชเมียร์ตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน นอกจากนั้นยังกล่าวหากลุ่มติดอาวุธในปากีสถานบุกเข้าไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอินเดีย
อิสลามาบัดเผยว่า ให้การสนับสนุนทางการเมืองและการทูตแก่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในแคชเมียร์เท่านั้น
สำหรับความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้มีผู้สังเวยชีวิตเกือบ 70 คน