วันนี้(10 พ.ค.)นายสรชาติ วิชยสุวรรณพรหม 1 ในสว. ที่ถูกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าว หาคดีฮั้วเลือกสว. กล่าวว่า ได้รับทราบว่าถูกหมายเรียกจาก กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จังหวัด โทรศัทพ์มาแจ้งให้ทราบ แต่ยังไม่เห็นหมายเรียกที่เป็นตัวเอกสาร โดยให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 19 พ.ค.นี้ แต่ตนคงขอเลื่อนออกไป1-2 สัปดาห์ เพราะติดภารกิจ อย่างไรก็ตามตนพร้อมไปรับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา มั่นใจชี้แจงได้ ไม่กังวลไม่หนักใจ
“ยืนยันไม่ได้ฮั้ว ไม่มีคะแนนจัดตั้ง หรือมีเส้นทางการเงินใดๆ การถูกเรียกครั้งนี้เท่าที่ดูเป็นการใช้วิธีสุ่มเรียกตัวแทนจาก20กลุ่มมากลุ่มละ1-3คน โดยสุ่มจากคนที่ได้ที่1ในแต่ละกลุ่ม และจังหวัดที่ได้รับเลือกเป็นสว.มากๆ โดยไม่ได้ดูจากการกระทำหรือการมีพฤติกรรมน่าสงสัย”นายสรชาติกล่าว
นายสรชาติ กล่าวต่อว่า ในกลุ่ม13 กลุ่มวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มของตนถูกหมายเรียก2คน ทั้งที่ในการเลือกระดับอำเภอและระดับจังหวัด ตนได้รับเลือกเข้ามาลำดับสุดท้ายทั้ง2ระดับ โดยระดับอำเภอได้ 2คะแนน ลำดับ1 ได้ 6คะแนน ส่วนระดับจังหวัดตนได้ 4 คะแนน ลำดับ1 ได้16คะแนน แต่ระดับประเทศตนได้66คะแนน มาเป็นที่1 ทำให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนสุ่มเรียกมาให้ข้อมูล
นายสรชาติกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวกกต.เคยเรียกตนไปชี้แจงแล้ว โดยชี้แจงว่า จะเอาคะแนนระดับอำเภอและจังหวัด มาเทียบกับระดับประเทศไม่ได้ เพราะระดับประเทศมีตรรกะอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง อาทิ การมีชื่อเสียงป็นที่รู้จัก ตนเป็นอดีตส.ส.หนองบัวลำภู มีลูกศิษย์มากมาย จึงได้คะแนนมาก กกต.ก็ไม่ติดใจอะไร รายละเอียดเหล่านี้กกต.รู้ดี เป็นเรื่องที่เก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว แต่การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ใช้ข้อมูลส่วนใหญ่จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เป็นหลัก ส่งมาให้กกต.ใช้ข้อมูลสุ่มมาโดยไม่รู้ว่ากกต.มีข้อมูลเหล่านี้แล้ว เมื่อดีเอสไอกดดันมา กกต.ก็จำเป็นต้องรับเรื่องเรียกสอบไว้ก่อน ยืนยันมั่นใจชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้
นายสรชาติกล่าวว่า ส่วนที่มองว่าการออกหมายเรียกส.ว.มารับทราบข้อหาคดีฮั้วเลือกสว. เป็นเกมการต่อรองระหว่างขั้วอำนาจทางการเมืองนั้น ตนไม่แน่ใจ แต่การออกหมายเรียกไม่ควรใช้วิธีสุ่มที่ไม่เป็นเหตุผล โดยไม่รู้พื้นฐานข้อเท็จจริงที่กกต.สอบไว้หมดแล้ว กรณีดังกล่าว สว.ยังไม่ได้หารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ยังเร็วเกินไป เพราะแต่ละคนเพิ่งได้หมายเรียก ทุกคนยังอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่มีโอกาสได้หารือกันเท่าไร
รายงานข่าวจากส.ว. แจ้งถึงความเคลื่อนไหวหลังจากที่คณะกรรมการสืบสวน และไต่สวน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กกต.และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำหมายเรียกชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีฮั้วเลือก ส.ว.ล็อตแรก 55 คน ไปปิดตามบ้านนั้น ล่าสุดได้มีการหารือข้อกฎหมายเพื่อพิจารณายื่นร้องเรียนกกต.ต่อสำนักงานป.ป.ช.เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่า การปิดหมายดังกล่าว เป็นการเลือกปฏิบัติ และถูกครอบงำให้องค์กรอื่นชี้นำครองงำต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
เพราะกรณี นี้ แม้ระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ข้อ 54 จะระบุให้การแจ้งหมายเรียกให้มาชี้แจง จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ก็จริง ใน 4 วิธี 1.ส่งด้วยตัวเอง 2.ส่งไปรษณีย์ 3.แจ้งโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ 4.แจ้งโดยปิดหมาย แต่แนวปฏิบัติที่ผ่านมาของกกต. หากผู้ถูกร้องไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยงการรับทราบข้อกล่าวหา จะไม่ใช้วิธีการปิดหมายโดยทันทีแบบกรณีนี้ แต่จะส่งทางไปรษณีย์ให้ตอบรับ ถ้าส่งไม่ถึง จึงจะไปปิดหมายพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่นำภาพมาแจกสื่อแบบนี้
“ที่สำคัญยังทราบมาว่า เรื่องนี้มี 3 ใน 6 เสียงกรรมการกกต.ที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้อีกด้วย ดังนั้น ทางกลุ่มส.ว.เราจึงกำลังพิจารณาร้องกกต. เพราะถือว่า ไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของตัวเองชัดเจน ปล่อยให้มีภาพปล่อยการบุกไปตามบ้าน ถือเป็นการดิสเครดิตส.ว.อย่างชัดเจน” แหล่งข่าวระบุ