xs
xsm
sm
md
lg

หัวหน้าผู้ออกแบบรัฐสภายื่นค้านถมสระมรกต หวั่นกระทบโครงสร้าง น้ำท่วมแน่หากขุดใต้ดินทำที่จอดรถ ชี้หลายส่วนไม่บริหารจัดการตามที่ออกแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หัวหน้าสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารรัฐสภา ยื่นคัดค้านถมสระมรกต หวั่นกระทบโครงสร้าง อากาศไม่ไหลเวียน ไม่ทราบบริหารจัดการยังไง ตามหลักออกแบบต้องทำระบบเหมือนสระว่ายน้ำ มีคลอรีน-เกลือ หากทำตามไม่มียุง ส่วนเรื่องสระรั่วผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ ย้อนถามงบ 100 กว่าล้านทำห้องสมุดจะคุ้มหรือไม่ เผยตอนออกแบบ “ศาลาแก้ว” ต้องมีฉนวนกันความร้อน มีผ้าใบคลุม ใช้ประโยชน์ได้แน่นอน เชื่อน้ำท่วมแน่หากขุดใต้ดินทำที่จอดรถเพิ่ม ชี้การก่อสร้างหลายส่วนอย฿่นอกสัญญาหลัก ก่อนส่งมอบงานพวกตนก็ไม่ได้รับเชิญให้มาดู

วันที่ 8 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา นำโดย นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ และประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะสร้างสรรค์ รับหนังสือจากนายชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารรัฐสภา เพื่อขอคัดค้านการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบของอาคารรัฐสภา ภายหลังสภาเตรียมของบเพื่อปรับปรุงใหม่

โดยนายชาตรี แถลงว่า ที่ผ่านมา 10 ปี ตนไม่เคยออกมาพูด เพราะคุยกับผู้ใหญ่แล้วว่าหากมีความเห็นไม่ตรงกันจะมีปัญหาหลายส่วน โดยตนขอคัดค้านการที่รัฐสภาได้จัดทำงบประมาณจะปิดสระมรกต เพื่อสร้างเป็นห้องสมุด และร้านค้าเพื่อบริการประชาชน โดยอ้างสาเหตุหลักมาจากปัญหาน้ำรั่วซึมและเกิดปัญหาน้ำเน่ายุงชุม ซึ่งขอชี้แจงว่า สระมรกต ถูกออกแบบและมีระบบการกรองแบบสระว่ายน้ำ มีระบบเกลือหรือคลอรีน หากดูแลตามปกติวิสัย มีการเปิดระบบให้น้ำไหลเวียนทุกวันตามมาตรฐานไม่สามารถเกิดยุงได้อย่างแน่นอน และเรื่องสระรั่วซึม เป็นเรื่องคุณภาพการก่อสร้างควรเป็นความรับผิดชอบของผู้รับเหมาเนื่องจากอยู่ในระยะประกันผลงาน และเพิ่งตรวจรับงานไม่นาน จึงไม่จำเป็นต้องเอาปัญหา ของผู้รับเหมามาเป็นของตัวเอง

ส่วนความคิดที่จะย้ายห้องสมุดจากชั้น 9-10 ลงมาชั้นหนึ่งนั้นนายชาตรี กล่าวว่าไม่สมเหตุสมผล สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น เนื่องจากห้องสมุดดังกล่าว ใช้งบประมาณ ถึง 100 กว่าล้าน และยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ และพื้นที่ดังกล่าวเชื่อมโยงกับหอจดหมายเหตุที่อยู่ชั้น 8 และผู้ที่ใช้งานห้องสมุด ส่วนใหญ่เป็น สส.และ สว. และข้าราชการสภา หากต้องการให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ก็ไม่ควรย้ายมาบริเวณสระมรกต ควรสร้างนอกอาคาร อีกทั้งการที่ใช้พื้นที่สระมรกตทำห้องสมุด อาจจะกระทบกับโครงสร้างที่ออกแบบไว้ได้เนื่องจากห้องสมุดมีน้ำหนักมากพอสมควร

นายชาตรี ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการถมพื้นที่สระมรกต เนื่องจากตอนออกแบบ ต้องการให้อาคารรัฐสภา เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ระดับดีเด่น (แบบตู้กับข้าว) มีช่องลมให้อากาศพัดผ่านในทุกทิศ และแสงที่ส่องผ่านลงมากระทบผนัง เสาสระน้ำ และอาคาร เจาะจงให้แสงเข้ามาน้อยเพื่อให้บรรยากาศที่สงบ ร่มเย็นและมั่นคง อาศัยเทคนิคการปรับเย็น โดยวิธีธรรมชาติ สูงขึ้น เป็นหลักในพื้นที่โถงและทางเดินโดยอาคารจะถูกเจาะให้เป็นรูพรุนด้วยช่องลมทุกชั้นทุกทิศทางเพื่อให้ลมพัดความร้อนออกจากอาคาร เป็นที่สังเกตว่า อากาศในโถงนี้จะมีสภาวะน่าสบาย แม้อากาศภายนอกจะร้อนมากในฤดูร้อนก็ตาม แต่หากถมสระ เพื่อสร้างห้องสมุด จะต้องติดแอร์ทั้งหมด ซึ่งตนนึกไม่ออกว่าพื้นที่โล่ง 10 ชั้นจะต้องใช้งบประมาณ ขนาดไหน ทั้งในการติดแอร์และปิดช่องต่างๆ ขณะเดียวกันในแต่ละเดือนจะต้องมีค่าไฟอีกจำนวนมหาศาล

สำหรับศาลาแก้ว ที่จะมีการของบประมาณจำนวนมากในการปรับปรุง นั้นนายชาตรี กล่าวว่า ตนก็ขอคัดค้านเช่นกัน เพราะเป็นการออกแบบมาสำหรับใช้ในงานพิธีสำคัญ เช่นพิธีทำบุญเทศกาลต่างๆ ของรัฐสภา แต่ที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ซึ่งขณะนี้ยังก่อสร้างอยู่นั้น ไม่ได้อยู่ในแบบ และที่ไม่ได้ติดแอร์ศาลาแก้ว แต่สามารถใช้งานได้จริง เพราะออกแบบให้มีผ้าใบที่เคลือบด้วยอะลูมิเนียม พี่สะท้อนแสงกันความร้อนที่สามารถเลื่อนติดกระจกปิดกระจกให้ทึบได้ด้วยระบบไฟฟ้า โดยอากาศระหว่างระบบผ้าใบจะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนอีกชั้นหนึ่ง และศาลาอยู่ในที่โล่ง ลมพัดสะดวก ถูกออกแบบมาให้ลดอุณหภูมิโดยสระน้ำที่อยู่โดยรอบ และงานออกแบบนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพียงแค่เหตุผลการใช้งาน แต่มีเป้าหมายให้เป็นปฏิมากรรมสัญลักษณ์ที่แสดงถึงจิตวิญญาณ ภูมิปัญญาสถาปัตยกรรมไทย และเป็นภาพจำหนึ่งของความเป็นไทยร่วมสมัยให้สังคมสถาปัตยกรรมโลก

เมื่อถามว่าตอนรับมอบเป็นไปตามสเปกหรือไม่ จนต้องของงบประมาณเพิ่ม เพื่อปรับปรุง นายชาตรี กล่าวว่า งานออกแบบของเราใช้งบประมาณ 11,000 กว่าล้านบาท แต่เมื่อมีการปรับแบบ อย่าใช้งบประมาณ 12,000 กว่าล้านบาท แต่นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราเลย และไม่ได้เห็นด้วยในหลายหลาย ๆ เรื่อง แต่เป็นโครงการที่อยู่นอกสัญญาหลัก ซึ่งเป็นวิธีที่รัฐสภาทำ หากถามว่าตรงตามสเปกหรือไม่ก็เหมือนกับงานก่อสร้างทั่วไปที่ปัญหามากมาย ซึ่งการก่อสร้างใช้ทีมงานแบบเต็มทีมเหมือนก่อสร้างตึกของ สตง. มีที่ปรึกษา และมีผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้ออกแบบถ้าได้รับเชิญก็ไป แต่ 3-4 เดือนสุดท้ายก่อนที่จะรับมอบงาน พวกตนไม่ได้รับเชิญ

เมื่อถามว่าส่วนที่ต่อเติมนอกเหนือจากแบบขึ้นมาถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ นายชาตรี กล่าวว่า ไม่ถือว่าผิดกฎหมายเพราะการรับจ้างออกแบบ รัฐถือว่าเป็นการรับจ้างทำของ และเมื่อเป็นของรัฐ รัฐก็มีสิทธิ์ แต่ในฐานะผู้ออกแบบ ช่วยให้ความเคารพ กับงานของเราและปรึกษาเราหน่อย

เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการก่อสร้างที่จอดรถเพิ่มจะส่งผลกระทบกับโครงสร้างหรือไม่ นายชาตรี กล่าว ไม่ทราบรายละเอียด แต่ คนที่ทำจะต้องระวังเรื่องน้ำท่วม เพราะอาคารรัฐสภาที่ทำไว้แล้ว ได้มีการออกแบบป้องกันน้ำท่วมชั้นใต้ดินระดับ 4 เมตร และเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่อยู่ระดับ 2.5 เมตร ดังนั้นน้ำไม่ท่วมแน่นอน แต่พื้นที่บริเวณถนนสามเสนต่ำ หากเดินจากลานประชาชนเข้าไป จะพบประตูหนึ่งซึ่งเป็นประตูกันน้ำ ดังนั้น ณ วันนี้ต่อให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ รัฐสภาก็ไม่ท่วมยืนยันได้ และความจริงในเรื่องที่จอดรถตอนที่ออกแบบก่อสร้าง เราทราบว่า ไม่เพียงพอ จึงได้ประสานกับทางทหารฝั่งสามเสนและวัดแก้วฟ้าฯ เพื่อ ไม่ขอใช้ที่จอดรถเพิ่มแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ซึ่งตอนเสนอไปถึง 8 ครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น